คุยกับ Yo La Tengo ก่อนไปฟินในโชว์สุดพิเศษของพวกเขา อาทิตย์นี้
- Writer: Montipa Virojpan
ก่อนที่เราจะไปดู Yo La Tengo เล่นเพลงโปรดของพวกเรากันแบบสด ๆ เป็นครั้งแรกที่ “Singha Light Live Series Vol. 004 with Yo La Tengo” และวงดนตรีขวัญใจชาวไทยอย่าง ModernDog ทาง Fungjaizine ก็ขอเหน็บบทสัมภาษณ์ร้อน ๆ มาให้ทุกคนได้อ่านเป็นการอุ่นเครื่องกันก่อนวันอาทิตย์ที่จะถึงนี้
ในขณะที่หลาย ๆ วงรุ่นเดียวกับพวกคุณต่างแยกย้ายกันไป อะไรคือเคล็ดลับที่ทำให้ YLT ยังทำเพลงด้วยกันอยู่
ไม่รู้สิ อาจจะเป็นเพราะเราไม่ได้คาดหวังความสำเร็จหรือชื่อเสียงอะไรมั้ง ไม่เคยนึกถึงมันเลย
อยู่มานานกว่า 30 ปี เคยเบื่อที่จะทำเพลงบ้างไหม
ไม่เลย
ทำไมพวกคุณถึงเลือกจะคัฟเวอร์เพลงตัวเอง
มันสนุกดีนะ คุณจะได้ฟังหลาย ๆ เพลงของ YLT ในแบบที่ต่างออกไปจากในแผ่น ไม่มีเพลงไหนหรอกที่จะเสร็จสมบูรณ์ในตัว คือทั้งดนตรีและความหมายที่เขียนออกมามันสามารถเปลี่ยนแปลงและเติบโตได้ตลอดเวลา
มีเพลงเยอะขนาดนี้ เคยลืมวิธีเล่นหรือจำเนื้อร้องไม่ได้บ้างไหม
เคยสิ แต่มันมักจะเป็นเพราะเราเหนื่อยกันมากในวันนั้นมากกว่า
เพลงคัฟเวอร์เพลงไหน (ที่ไม่ใช่งานของ YLT) ที่คุณคิดว่าแย่ที่สุด และอะไรคือคัฟเวอร์ที่ดีที่สุด
เราไม่เสียเวลานึกถึงเพลงที่เราไม่ชอบหรอก (หัวเราะ) เราชอบ Louie Louie ที่ Black Flag เอามาทำ หรือ Cold Rain and Snow ของ Oneida แล้วก็ Tulane เวอร์ชัน The A-Bones
อัลบั้ม Fakebook กับ Fuckbook มีความเชื่อมโยงกันยังไง แบบนี้แสดงว่าจะมี Facebook เป็นภาคต่อของสองอัลบั้มนั้นด้วยหรือเปล่า
ใช่! (หัวเราะ) คงมีความเกี่ยวข้องกันอยู่เนือง ๆ ล่ะนะ
เพลง I Heard You Looking ได้แรงบันดาลใจมาจากอะไร
มันเป็นหนึ่งในเพลงแรก ๆ ที่พวกเราเล่นแจมกันสามคน แล้วหลังจากนั้นเราก็เอาเพลงนั้นมาเล่นสดกันเลย ที่มามันมีอยู่แค่นั้นแหละ
แล้วเพลง The Crying of Lot G นี่มาจากหนังสือของ Thomas Pynchon เรื่อง “The Crying of Lot 49” หรือเปล่า
เรื่องนั้นเป็นหนังสือที่ดีมากเลยนะ แต่มันไม่ได้ทำให้เกิดเพลงนี้ขึ้นมาหรอก
มีเพลงไหนบ้างไหมที่เขียนขึ้นจากหนังสือหรือภาพยนตร์
ก็ไม่ได้เขียนขึ้นมาตรง ๆ นะ มันจะค่อย ๆ ซึมมาเหมือนเป็นผลกระทบที่สะท้อนอยู่ในเพลงที่เราทำด้วยกันมากกว่า
เห็นด้วยไหมที่ว่า ภาพยนตร์ ศิลปะ และหนังสือ คือวัตถุดิบที่ดีสำหรับการเริ่มต้นทำอะไรอย่างหนึ่ง
ทุกอย่างรอบตัวคุณคือวัตถุดิบชั้นเลิศในการสร้างสิ่งดี ๆ ทั้งนั้นแหละ
ถ้าคุณจะต้องเขียนเพลงใหม่เกี่ยวกับคนคนนึงขึ้นมา คนที่น่าสนใจคนนั้นจะเป็นใคร
เขายังคงเป็นปริศนาอยู่
จะมีงานใหม่ ๆ ให้ได้ฟังหรือยัง
ไม่รู้ว่านี่คือแผนหรือเปล่านะ แต่เราก็ทำเพลงใหม่ออกมาเยอะมากแล้วแหละ คาดว่าคงจะได้ฟังกันเร็ว ๆ นี้
คิดยังไงกับผลการเลือกทั้งประธานาธิบดีสหรัฐ
เลวร้ายมาก
จะเขียนเพลงเพื่อเป็นการถ่ายทอดมุมมองทางการเมืองไหม
เราว่าเราแสดงออกทางการเมืองโดยมีชีวิตอยู่ในทุกวันนี้ก็พอ
คุณมีวิธีจัดการเลือกเพลงให้เหมาะกับแต่ละโชว์ยังไง
เราทำ setlist ให้ไม่เหมือนกันทุกคืน เพราะทุกคอนเสิร์ตที่เราไปเล่นมันให้บรรยากาศที่ต่างกัน
แอบเห็นในตารางงานว่า คุณจะเล่นเพลงเซ็ตสนุก ๆ และเพลงชิว ๆ คนละช่วงเวลา ทำไมต้องแยกออกจากกันทั้งที่จะเล่นมันปน ๆ กันไปก็ได้
เราพบว่าการแสดงด้วยวิธีแยกเพลงเสียงเบากับเพลงเสียงดังออกจากกันเป็นวิธีที่เวิร์คมากเลยนะ มันทำให้เราสามารถเปิดกว้างและยืดหยุ่นที่จะเลือกเพลงหรือทำอารมณ์กับโชว์ยังไงก็ได้
เราสามารถคาดหวังอะไรได้จากโชว์ครั้งนี้
คุณจะได้ฟังเพลงเยอะมาก ๆ แน่นอน เพลงสนุกเซ็ตนึง เพลงชิว ๆ อีกเซ็ตนึง
มีอะไรจะฝากถึงแฟนเพลงชาวไทยไหม
แล้วเจอกันนะ!
อ่านกันจบไปแล้ว เรียกว่า เราจับทางอะไรไม่ได้เลย! แบบนี้จะได้ฟัง Yo La Tengo เล่นเพลงอะไรในเพลงจำนวนไม่น้อยของพวกเขากันบ้างหว่า เช่นกันกับวงไทยของเรา ModernDog ที่ได้กระซิบกับผู้จัดว่าพวกเขาจะเล่นเพลงอาร์ต ๆ ที่หาโอกาสดูได้ยาก โดยเฉพาะเพลงจากอัลบั้มชุด ทิงนองนอย และ Love Me Love My Life ดังนั้น แฟนเพลง side B ของ ModernDog ก็ไม่ควรพลาดโชว์นี้เป็นอย่างยิ่ง
เตรียมไปเซอร์ไพรส์กับโชว์ดีส่งท้ายปีพร้อมกับพวกเรา อาทิตย์ที่ 4 ธันวาคมนี้ ที่ Voice Space ใครที่ยังไม่มีบัตร สามารถเข้าไปซื้อได้ที่ https://www.ticketmelon.com/event/yo-la-tengo และหน้า shop ของ https://www.facebook.com/HaveYouHeard.Live/