Article Import

โรมี่ และโอลิเวอร์ จาก The XX ฝากทักทายแฟน ๆ ก่อนมาเจอกัน 29 มกราคมนี้

  • Writer: Montipa Virojpan
  • Photo by Alasdair McLellan

Romy Madley Croft และ Oliver Sim จาก The XX มาเล่าเบื้องหลังการทำงานในอัลบั้มล่าสุดของพวกเขา I See You ก่อนจะบินมาเปิดการแสดงสดที่บ้านเราในวันที่ 29 มกราคมนี้

อัลบั้ม I See You ต่างจากชุด The XX และ Coexist ยังไงบ้าง

โรมี่: การทำอัลบั้ม Coexist นี่ค่อนข้างเป็นอะไรที่ปิดกั้นตัวเองเหมือนกันนะ คือเราขลุกตัวช่วยกันทำเพลงแค่สามคนในห้องที่นอร์ธลอนดอน เพราะหลังจากที่ปล่อยอัลบั้มแรกออกมาก็ได้รับความสนใจอย่างมากจากคนฟัง ซึ่งในชุดนั้นเราไม่ได้ตั้งใจให้มันออกมาในทิศทางไหนเป็นพิเศษ ค่อนข้างเป็นความบังเอิญมากกว่าที่ทำดนตรีออกมาแล้วดูเรียบง่าย และมีสเปซ ฟังดูผ่อนคลาย แต่ถึงจะบังเอิญทำออกมาได้แบบนั้นเราก็มีความสุขกับมัน เราเลยตั้งใจว่าในอัลบั้มที่สองเนี่ย คนชอบที่มันเป็นสไตล์นั้นแล้ว เราจะยึดกับแนวเพลงแบบนี้ แล้วพามันไปให้ไกลขึ้น

จนพอมา I See You เราอยากทำอะไรที่มันแตกต่างไปจากเดิม ไม่ได้ทำแค่ให้เสพเฉพาะกับคนกลุ่มนึงในลอนดอน โดยลดความจริงจังของดนตรีลงแล้วทำอะไรให้คนฟังซึมซับได้ง่ายมากขึ้น อีกสิ่งที่เป็นอิทธิพลในการทำงานชุดนี้คือการได้ร่วมงานกับ Jamie XX ในอัลบั้มเดี่ยวของเขา ตอนที่ฟังอยู่ในสตูดิโอเราไม่เคยคิดว่ามันจะเอามาเล่นสดได้เลยเพราะมันเป็นเพลงแดนซ์ ซึ่งเราชอบการที่มันเป็นอย่างนั้นนะ แต่พอถึงจุดนึงแล้วเราก็เอามาคิดว่า แล้วทำไมไม่ลองเอามาทำให้มันเล่นสดได้ด้วยล่ะ

มีคอนเซปต์หรือเรื่องที่อยากจะเล่าในงานชุดใหม่นี้ไหม

โรมี่: การที่เราเป็นเพื่อนกันนี่เรามีทั้งช่วงที่ดีและไม่ดี ยิ่งเราเติบโตขึ้นเราจะมีช่วงที่ต้องแยกห่างจากกัน จนวันนึงเราก็กลับมาสนิทกันมากกว่าเก่าด้วยซ้ำ พวกเราเห็นภาพสะท้อนของตัวเองในกันและกัน หรือบางทีเราก็ชอบตัวตนของเพื่อนเรามากกว่า และในที่สุดเราก็ได้เรียนรู้ว่าสิ่งที่ทำให้วงนี้พิเศษยิ่งกว่าอะไรคือมิตรภาพของพวกเรานั่นเอง ซึ่งอัลบั้ม I See You ก็บอกเล่าเรื่องราวเหล่านั้นได้ดี

ตอนที่เพลง On Hold ปล่อยออกมาแรก ต้องยอมรับว่าเราแปลกใจกับซาวด์ดนตรีที่เปลี่ยนไป อะไรคืออิทธิพลในการเปลี่ยนแปลงแนวดนตรีให้มีความสนุก และดูสดใสยิ่งขึ้น

โรมี่: มีอะไรเกิดขึ้นมากมายในหลายปีที่ผ่านมา เหมือนการเติบโตเป็นปัจจัยที่สำคัญที่สุดในช่วงชีวิตของทุกคน ไม่ว่าคุณจะทำอะไร มันสำคัญมากที่จะได้เรียนรู้ว่าแท้จริงแล้วคุณเป็นคนแบบไหน นี่แหละ มันก็เลยออกมาดูมีความมั่นใจ กระชับ และสนุกสนานมากขึ้น นี่คือสิ่งที่เป็นเรา

ทำไมถึงเลือกเพลงอมตะอย่าง I Can’t Go for That (No Can Do) ของ Hall and Oates มาเป็นแซมพ์ในเพลง On Hold

โรมี่: เราแค่คิดว่ามันมีเส้นแบ่งบาง ระหว่างสิ่งที่เราอยากให้เป็นกับสิ่งที่เราอยากปล่อยไหล เพราะตอนที่เราทำอัลบั้มนี้กัน เราตั้งใจว่าจะไม่ให้มันออกมาอย่างที่ตั้งใจไว้มากจนเกินไป ก็เลยคิดว่าการไม่ทำตามสิ่งที่เราคิดน่าจะเหมาะกับ The XX ดี อย่างการใส่แซมพ์เพลงนี้เข้าไป ถ้าเป็นพวกเราตอนทำอัลบั้ม Coexist มันคงไม่มีทางเกิดขึ้นแน่

มีวงในตำนานวงไหนที่เป็นแรงบันดาลใจในการทำเพลงชุดนี้บ้าง

โรมี่: อาจจะไม่ใช่ในเชิงแนวดนตรีนะ แต่เราชอบฟังวงอย่าง Everything But The Girl, The Velvet Underground แล้วก็ Cocteau Twins พวกเขาคือแรงบันดาลใจของเรา

ใครเป็นคนกำกับมิวสิกวิดิโอให้ มันสวยมาก มีความเป็นงานที่ถ่ายด้วยฟิล์มให้ความรู้สึกแบบหนังยุคเก่าสีสด

โอลิเวอร์: ไตรภาคของมิวสิกวิดิโอที่เราทำใน I See You เป็นการทำงานกับ Alasdair McLellan เขาเป็นช่างภาพที่เราเคยร่วมงานกันมาก่อน งานของเขาสามารถนำเสนอทุกอย่างที่เราอยากให้มีในงานภาพของอัลบั้มนี้ ความเยาว์วัย ความอบอุ่น และท้องฟ้าอันงดงาม

พวกคุณได้ Millie Bobby Brown จาก Stranger Things มาเล่นมิวสิกวิดิโอได้ยังไง

โอลิเวอร์: เราได้ชวน Raf Simons มาทำวิดิโอเพลง I Dare You ซึ่งเขาชวนน้องมิลลี่มาเล่นอีกที เราชอบดู ‘Stranger Things’ กันมาก แล้วก็รู้สึกตื่นเต้นสุด ตอนรู้ว่าจะได้น้องมาเล่น

เพลงที่ชอบที่สุดใน I See You

โอลิเวอร์: ความชอบของเราเปลี่ยนไปทุก สัปดาห์เลย เพลงโปรดของผม ตอนนี้คือ Replica มันมาประกอบเป็นรูปเป็นร่างกันตอนเราทัวร์ที่ LA

ฝากอะไรถึงแฟน หน่อย

โรมี่: นี่เป็นครั้งแรกที่เราจะได้ไปประเทศที่สวยงามของพวกคุณเป็นครั้งแรก และเราอดใจรอเจอพวกคุณไม่ไหวแล้ว!

Facebook Comments

Next:


Montipa Virojpan

อิ๊ก เนิร์ดดนตรีที่เพิ่งกล้าเรียกตัวเองว่าเป็นนักเขียนตอนอายุ 25 ชอบเดินเร็ว นอกจากขนมปังกับกาแฟดำแล้วก็สามารถกินไอศกรีมกับคราฟต์เบียร์แทนมื้อเช้าได้