Standing Egg มารู้จักกับพวกเขา ก่อนจะมาขับกล่อมคนไทยด้วยเพลงหวานเยิ้ม

Article Import

รู้จักกับ Standing Egg ก่อนพวกเขาจะมาขับกล่อมคนไทยด้วยเพลงหวานเยิ้ม

  • Writer: Peerapong Kaewthae

หนึ่งวงอินดี้ชื่อดังจากเกาหลีที่ถ่ายทอดความรู้สึกอันหลากหลายด้วยสไตล์เพลงอะคูสติกป็อปน่ารัก ๆ และอ่อนโยนช่วยปลอบประโลมจิตใจในวันเศร้า ๆ ได้อย่างดี พวกเขาเดบิวด้วยเพลง La La La ที่หลายคนตกหลุมรัก และเพลง Kiss ที่วาบหวามต่อทุกใบหู ทำให้พวกเขามีชื่อเสียงโด่งดังในเวลาไม่นาน หลังจากเดินทางมายาวนานถึง 8 ปี Seen Scene Space ก็ชวนพวกเขามาขับกล่อมพวกเราถึงเมืองไทยในงาน Standing Egg Dramatic Tour 2018 in Bangkok วันที่ 9 มิถุนายนนี้

ซึ่งวงนี้ยังมีความน่าค้นหาอยู่ด้วยทีมโปรดิวเซอร์ที่แต่งเพลงเพราะ ๆ ออกมามากมายโดยไม่เปิดเผยตัวตน ซึ่งใช่โค๊ดเนมว่า Egg 1, Egg 2, Egg 3 ทำให้โซเชียลเกาหลีร้อนแรงขึ้นมาว่าตัวจริงของพวกเขาทั้งสามคือใครกันแน่ เพราะทีมแสดงสดตั้งแต่ยุคก่อตั้งที่นำโดย Jin Kyung Min (Clover), Han Kyul, Hana ล้วนออกมาปฎิเสธว่าพวกเขาไม่ใช่เหล่า Egg จริง ๆ ซึ่งยังคงเป็นปริศนามาจนทุกวันนี้ แต่ล่าสุด เจ้าของเสียงสุดนุ่มอย่าง Clover ที่เคยเป็นนักร้องนำทีมแสดงสดก็ได้เดบิวเดี่ยวไปแล้ว ทำให้ตอนนี้ Egg 2 ต้องมาเป็นนักร้องนำเอง โดยที่เขาก็ยังไม่เปิดเผยชื่อของตัวเองเหมือนเดิม แต่ก็ทำให้วงมีเสน่ห์มากขึ้นในน้ำเสียงที่นุ่มลึกขึ้น ด้วยความใจดีของโปรโมเตอร์ที่น่ารัก Fungjaizine เลยมีโอกาสได้สัมภาษณ์พวกเขาผ่านทางอีเมล์ ใครมีตั๋วอยู่ในมือแล้วก็มารู้จักพวกเขาให้มากขึ้น หรือใครยังลังเลอยู่ก็ลองอ่านดู แต่ระวังจะตกหลุมรักดนตรีของพวกเขาโดยไม่รู้ตัว

 

ที่มาของชื่อวง ‘Standing Egg’

Standing Egg: พวกเราได้แรงบันดาลใจมาจากเรื่อง Columbus’s Egg (FJZ: โคลัมบัสผู้ค้นพบทวีปอเมริกา โดนถากถางว่าสิ่งที่เขาทำไม่ใช่เรื่องยิ่งใหญ่อะไร ใคร ๆ ก็ทำได้เพราะแผ่นดินมีอยู่แล้ว เขาเลยท้าให้ทุกคนตั้งไข่ไก่ให้ตรงแต่ก็ไม่มีใครทำได้ โคลัมบัสจึงทุบไข่ให้มีรอยร้าวเล็กน้อยก่อนจึงตั้งได้ ทุกคนเลยโวยวายว่าใครก็ทำได้ โคลัมบัสจึงบอกว่า “มันเป็นสิ่งที่ง่ายที่สุดในโลก หลังจากที่ได้เห็นคนอื่นทำให้ดูแล้ว) เลยเอามาตั้งเป็นชื่อวง มันเป็นเรื่องยากที่จะตั้งไข่ให้ตรงได้แต่ก็ไม่ใช่สิ่งที่เป็นไปไม่ได้ เราจึงเอาใจความสำคัญของการตั้งไข่มาทำเพลงอย่างตั้งใจ

คำว่า Standing Egg สอดคล้องกับคำว่า ‘ตั้งไข่’ ในภาษาไทยแปลว่า ฝึกทำอะไรสักอย่าง แล้วพวกคุณเริ่มหัดเล่นดนตรีตั้งแต่เมื่อไหร่ และเพราะอะไร

Standing Egg: ผมหัดเล่นกีตาร์ครั้งแรกเพราะอยากสารภาพรักกับผู้หญิงที่ผมชอบตั้งแต่สมัยเรียน แต่ผมยังไม่ได้ทันได้สารภาพกับเธอ ความสัมพันธ์ก็จบลงไปซะก่อน เหมือนผมจะหัดทำเพลงมาตั้งแต่เด็กเลย

น่าสนใจว่าตอนที่คุณปล่อยซิงเกิ้ลแรก ๆ พวกคุณปล่อยผ่าน twitter กัน คุณมีเทคนิคในการใช้โซเชียลมีเดียให้เข้าถึงผู้ฟังยังไง

Standing Egg: มันเป็นประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมมาก ๆ ที่ได้พูดคุยกับกลุ่มคนที่ชอบเพลงของพวกเรา จำนวนแฟนคลับนับล้านอาจเป็นแค่ตัวเลข แต่คำพูดให้กำลังใจที่ส่งมาถึงเราโดยตรงมันน่าชื่นใจและลึกซึ้งกว่าเยอะเลย ยิ่งได้เห็นชีวิตประจำวันของแฟนเพลง มันเหมือนเราได้ใกล้ชิดกันมากขึ้น ต้องขอบคุณแฟนเพลงทุกคนที่ช่วยกันบอกต่อเพลงของเรา เพราะเราคงมาไม่ถึงตรงนี้ได้ด้วยตัวเองแน่ ๆ ทั้ง ๆ ที่ไม่ได้เผยแพร่เพลงของเราในสื่อใหญ่ ๆ เลย เหนือสิ่งอื่นใด SNS (Social Networking Service) สนุกมาก ๆ เลยครับ

อัลบั้ม Dramatic นี่มีคอนเซ็ปต์ยังไง

Standing Egg: หลังจากอัลบั้มที่ 4 ก็ใช้เวลาถึงสามปีกว่าจะเป็นอัลบั้มที่ 5 Dramatic ของเรา เราปล่อยซิงเกิ้ลและมินิอัลบั้มออกไปก่อนเพื่อโปรโมตเพลง OST ทำให้เราต้องเลื่อนปล่อยอัลบั้มเต็มไป อย่างแรกเลยคือเราอยากทำเพลงที่มัน dramatic มากขึ้น เราจึงเพิ่มส่วนของออร์เคสตรามากขึ้น เมื่อเทียบกับเพลงก่อน ๆ ของเรา หลายคนจะเห็นว่า Standing Egg มักจะทำเพลงที่สบายหูและอ่อนโยน แต่เราอยากทำเพลงที่เร่งเร้าและวูบไหว ถึงอารมณ์มากขึ้น หรือเพลงที่เหมือนหนังมากขึ้น เพลงที่ช่วยเยียวยาจิตใจเราได้ไม่จำเป็นต้องเป็นเพลงนิ่ง ๆ เสมอไป ความประทับใจต่อเพลงที่ dramatic อย่างงดงามก็มีส่วนช่วยเยียวยาเราได้เหมือนกัน

อยากแนะนำเพลงไหนให้คนที่ยังไม่รู้จัก Standing Egg ฟัง

Standing Egg: เวลาถูกถามแบบนี้ พวกเรามักจะตอบว่าอยากแนะนำทุกเพลงเลย เพราะพวกเราทำเพลงกันเยอะมากและทั้งหมดล้วนเป็นเพลงที่พวกเราชอบฟัง ยังไงก็ตาม ทุกคนมักคิดถึงเพลงหวาน ๆ ของเราก่อนเสมอ แต่เมื่อคุณฟังเพลงของพวกเราไปหลาย ๆ อัลบั้ม จะพบว่าพวกเราก็ยังมีสีสันที่แตกต่างไปในแต่ละอัลบั้มด้วย แต่ถ้าให้แนะนำหนึ่งเพลงเราคงแนะนำเพลงใหม่ของพวกเราอย่าง 소확행 เพราะมันเป็นเพลงที่ถ่ายทอดอารมณ์ของวงเราในตอนนี้ได้ดีที่สุด

Standing Egg ก่อตั้งมา 8 ปีแล้ว อุดมการณ์ทางดนตรีเปลี่ยนไปมากน้อยแค่ไหน

Standing Egg: สไตล์เพลงของพวกเรามักจะเปลี่ยนไปตลอดและเราอยากทดลองแนวใหม่ ๆ เสมอ แต่ความคิดและหูของพวกเราไม่เคยเปลี่ยนไปเลย พวกเรายังอยากทำเพลงที่ผ่อนคลายเสมอ ตอนนี้ เราอยากทำเพลงที่สะเทือนอารมณ์ มีเนื้อเพลงและดนตรีที่แข็งแรงรุนแรงขึ้น แต่ยิ่งกว่านั้นคือเราอยากทำเพลงที่ปลดเปลื้องอารมณ์ของเราต่อไป ทั้งความสุขและความคิดถึง และผมยังอยากเล่นดนตรีเพื่อรักษา ‘จิตวิญญาณของวัยรุ่น’ เอาไว้ตลอดไป มีนักดนตรีหลายคนเหมือนกันที่ทำเพลงได้ลึกซึ้งขึ้นตามอายุที่มากขึ้น แต่พวกเรายังอยากทำเพลงอะคูสติกที่อ่อนเยาว์และอ่อนไหวต่อไป

คุณร่วมงานกับศิลปินมากมาย มีศิลปินคนไหนที่อยากร่วมงานเป็นพิเศษไหม

Standing Egg: ถ้าคุณเป็นศิลปินที่สามารถถ่ายทอดความรู้สึกของคุณได้ดีผ่านดนตรีของพวกเรา เราก็อยากร่วมงานด้วยนะ แต่คนที่อยู่ในใจผมตอนนี้คือ แทยอน Girl’s Generation นะ ผมมีโอกาสได้ฟังเพลงที่เขาร้องในห้องรอบางครั้งตอนเราไปใช้ห้องอัดเดียวกัน มันทำให้นึกถึงเพลงหลายเพลงที่อยากให้เธอมาร้องด้วยเลย ผมคงจะมีความสุขมากเลยถ้าได้ร่วมงานกับแทยอน (หัวเราะ)

รู้สึกยังไงที่เกาหลีใต้กับเกาหลีเหนือเพิ่งประกาศยุติสงครามกัน แล้วคาดหวังอะไรจากเหตุการณ์ต่อจากนี้บ้าง

Standing Egg: พวกเราบอกได้แค่ว่าเรารู้สึกตื่นเต้นมากตอนดูถ่ายทอดสด เราประทับใจมากที่ได้เห็นผู้นำของทั้งเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้จับมือกันที่ชายแดนของทั้งสองประเทศ คิม จอง อึน เขียนในหนังสือเยี่ยมว่า ‘From the beginning of the new history to the era of peace, the beginning of history’ หวังว่าเราจะพบสันติภาพที่แท้จริงอย่างที่เขาเขียนไว้

คิดว่าคนเกาหลีเหนือจะชอบเพลงของ Standing Egg ไหม

Standing Egg: เราก็อยากเห็นรีแอ็คชั่นของพวกเขาเหมือนกัน และพวกเราก็อยากฟังเพลงจากเกาหลีเหนือด้วย

คุณชอบตั้งชื่ออัลบั้มด้วยคำ ๆ เดียว อยากให้แต่ละคนในวงนิยาม Standing Egg ด้วยคำ ๆ เดียวหน่อย

Standing Egg: ใช่ ผมชอบอะไรที่เรียบง่าย ถ้าใช้คำคำเดียวเพื่ออธิบายวงของเราผมมีคำนี้ในหัวเลยคือ ‘healing’ (รักษา, เยียวยา) เพลงคงไม่มีความหมายถ้าไม่มีใครได้ฟังมัน มันคงไม่สำคัญถ้าเราทำเพลงขึ้นมามากมายแต่ไม่มีใครที่อยากฟังกับเรา เราเคยผ่านช่วงที่ยากลำบากและอยากยุบวงเหมือนกัน แต่เมื่อได้รู้ว่ายังมีกลุ่มคนที่ชอบเพลงของเราและรอเพลงใหม่ ๆ จากเราอยู่ คำว่า Standing ในชื่อวงของเราก็ช่วยปลอบโยนพวกเรา เหมือนเป็นของขวัญและความสุขมากกว่าความนิยมบนชาร์จเพลงเป็นไหนไหน

ฝากผลงาน

Standing Egg: พวกเราขอบคุณจากใจกับความรักที่มีให้วงของพวกเรา ถ้าเพลงของเรากลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของใครสักคนและมันมีความหมายกับพวกเขาบ้าง หรือถ้าเพลงของพวกเราคอยให้กำลังใจหรือเติมพลังให้ทุกวันในชีวิตของทุกคนได้ เราก็มีความสุขมากเกินพอแล้ว ขอบคุณอย่างสุดหัวใจที่ฟังเพลงของพวกเราโดยเฉพาะการก้าวข้ามของภาษาได้

ใครที่มีตั๋วแล้ว อย่าลืมว่าเรามีนัดกันวันที่ 9 มิถุนายน Voice Space นาจา แต่ถ้าใครยังไม่มีตั๋วก็คลิก >Ticketmelon< ได้เลยจ้า

รีวิว U2: The Joshua Tree tour 2019 ครั้งแรกกับการมา Southeast Asia ในรอบ 42 ปี!

Maho Rasop Festival 2019 วิ่งจนขาขวิด เต้นจนต้องร้องขอชีวิต DAY 1

Facebook Comments

Next:


Peerapong Kaewthae

แม็ค เป็นคนชอบฟังเพลงเพราะเป็นกิจกรรมที่ทำคนเดียวได้ และก็ชอบแนะนำวงดนตรีหรือเพลงใหม่ ๆ ให้คนอื่นรู้จักผ่านตัวอักษรตลอดเวลา