พูดคุยกับ RHYE เจ้าของเสียงร้องชวนฝัน กับโชว์เดี่ยวครั้งแรกในกรุงเทพ ฯ พฤษภาคมนี้
- Writer: Montipa Virojpan
- Photographer: Neil Krug, Universal Music
ใครที่พลาดโชว์ของเขาในงาน Wonderfruit เมื่อปี 2015 นี่เป็นโอกาสแก้ตัวสำหรับคุณแล้ว เพราะ RHYE จะมาปรากฏตัวบนเวทีในโชว์เดี่ยวครั้งแรกของเขาในกรุงเทพ ฯ ที่งาน Singha Light Live Series Vol 3.1 – RHYE แต่ก่อนที่เขาจะมาขับกล่อมเราด้วยเสียงนุ่ม ๆ ก็ขอเชิญมาอุ่นเครื่องในบทสัมภาษณ์ที่เขาต่อสายจากโตรอนโตมาหาเราเมื่อคืนนี้
อะไรทำให้คุณทิ้งช่วงการทำเพลงจากอัลบั้มแรกไปถึง 5 ปี
หลังจากที่ทำอัลบั้มแรกเสร็จผมก็ทัวร์คอนเสิร์ตตลอดเลย แล้วผมก็ต้องหาวัตถุดิบในการทำเพลงอัลบั้มใหม่ มันก็เลยใช้เวลาประมาณนึงเลยครับ
ทำไมตั้งชื่ออัลบั้มว่า Blood
ผมว่าคำว่าเลือดมันเหมือนมีความหมายหลายอย่างนะ อย่างแรกคือมันเป็นสิ่งหล่อเลี้ยงชีวิตของเรา เวลามีอารมณ์ความรู้สึกอะไรที่เข้มข้นมาก ๆ เราก็จะเห็นสีของเลือดตามผิวหนัง หรือมันโยงไปถึงเรื่องครอบครัว ความรัก ได้หมดเลยครับ
ดูเป็นคนที่ชอบคำว่า ‘เลือด’ มากเหมือนกันนะ เพราะในชุดก่อนก็มีเพลงที่ชื่อ Shed Some Blood ชุดนี้ก็มี Blood Knows
ไม่ได้ตั้งใจขนาดนั้นนะครับ เหมือนว่าเรื่องที่เขียนออกมามันเกี่ยวกับเรื่องเรื่องนึง แล้วการใช้คำว่าเลือดมาตั้งเป็นชื่อเพลงมันก็ดูเข้าท่าดี ประมาณนั้นมากกว่า
อะไรคือสิ่งที่แตกต่างระหว่างงานทั้งสองชุด
ชุดแรกจะมีกลองซะเยอะ และผมจะเป็นคนเล่นกลองเองในทุกเพลงที่มีกลอง แต่ตอนที่อัดอย่างใน Woman ก็โปรแกรมเอา ส่วนชุดที่สอง Blood นี่จะใช้ MIDI ใช้คอมพิวเตอร์ซะเยอะ แล้วก็จะมีเปียโนเล่นสด ๆ ตอนอัดครับ นั่นน่าจะเป็นสิ่งที่ต่างกันจุดใหญ่ ๆ
ส่วนตัวแล้วชอบเขียนเพลงรักหรือเพลงอกหักมากกว่ากัน
อัลบั้มนี้ไม่ค่อยมีเพลงอกหักเท่าไหร่ ส่วนใหญ่จะเป็นเพลงที่เกี่ยวกับการตกหลุมรัก สำหรับผมไม่เกี่ยวกับว่าชอบเขียนเรื่องไหนมากกว่า แต่มันจะถูกเขียนออกมาในจังหวะชีวิตที่ต่างกันไปครับ
ได้ Roosevelt มาทำรีมิกซ์ในเพลง Summer Days ได้ยังไง
ผมคิดว่าอยากจะทำเพลงรีมิกซ์ซักเพลง แล้วก็ลองหาศิลปินที่จะมาทำ ซึ่งพวกเขาชอบเพลง Summer Days มาก ก็เจ๋งดีครับที่ออกมาในเวอร์ชันนั้น
ย้อนไปตอนที่โชว์แรกในชีวิตที่คุณขายบัตรได้หมด ตอนนั้นรู้สึกยังไงบ้าง
ไม่แน่ใจเหมือนกันครับ เมื่อก่อนผมก็คิดเยอะนะ ว่าถ้าสมมติงานนี้บัตรขายได้ไม่เยอะจะเป็นยังไง แต่เอาเข้าจริงมันก็ไม่ใช่โชว์ที่เลวร้ายอะไร ก็ไม่ค่อยกังวลแล้วมั้งครับ เพราะในทุกโชว์ผมพยายามที่จะส่งพลังงานทั้งหมดที่ผมมีถ่ายทอดไปในเพลง ทำมันออกมาให้ดีที่สุดก็พอ
อะไรคือสิ่งที่ดีที่สุดที่เคยเกิดขึ้นกับคุณในฐานะ Rhye
น่าจะเป็นการได้ไปทัวร์ทั่วโลกครับ เพราะผมชอบท่องเที่ยวมาก ใน 4-5 ปีที่ผ่านมานี้ ผมว่ามันพิเศษมากเลยครับ
อัลบั้มแรกของคุณชื่อ Woman แล้วผู้หญิงในอุดมคติของคุณเป็นคนแบบไหน
ฉลาด มีความคิดสร้างสรรค์ มีความเป็นศิลปิน ตลก สามารถเชื่อมต่อทางความรู้สึกหรือจิตวิญญาณกับผมได้ ผู้หญิงคนที่จะมาเป็นทั้งคนรักและเพื่อนสนิทของผมได้
ยังทำเพลงในโปรเจกต์ Milosh อยู่หรือเปล่า
ผมยังไม่ได้ตัดสินใจเลยครับว่าจะทำอะไรต่อไป เพราะตอนนี้ก็มีโปรเจกต์ใหม่ที่มีความเป็นไปได้ว่าจะเกิดขึ้นในเร็ว ๆ นี้ เป็นเพลงคลาสสิก จริง ๆ แล้วก็อยากทำ Milosh อยู่เหมือนกันแหละครับ แต่จะเป็นซาวด์ที่ใช้คอมพิวเตอร์ เป็นแนวทดลองมากขึ้นด้วย ยังไม่รู้เลยครับ แต่เดี๋ยวได้ทำแน่นอน
คุณเคยมาเล่นที่นี่เมื่อปี 2015 เป็นครั้งแรกในไทยของคุณรึเปล่า และคาดหวังอะไรกับการมาทัวร์ครั้งนั้น
ผมเคยมาเมื่อประมาณปี 2006-2007 แล้วผมก็คิดมาตลอดว่าอยากกลับมาประเทศไทยมาก ผมคิดว่าคงจะดีถ้าได้มาเล่นคอนเสิร์ตที่นี่ แต่ก็ไม่รู้ว่าจะได้การตอบรับยังไงบ้าง จนในที่สุดก็ได้มาเล่นที่ Wonderfruit ซึ่งครั้งนั้นดีมากครับ แต่ครั้งนี้เรามีเวลาไม่มากเพราะต้องไปต่ออีกหลายที่
อะไรทำให้คุณตอบตกลงมาเล่นในงานครั้งนั้น
ถ้ามีโอกาสให้ผมได้ไปเล่นที่ไหนผมก็อยากจะไปเล่นให้ได้ทุกที่ครับ แล้วการได้เล่นในเฟสติวัลครั้งนั้นก็น่าจะเป็นอะไรที่สนุกดี แต่แล้วก็คิดว่าอยากมาเล่นที่กรุงเทพ ฯ ด้วย คงจะน่าตื่นเต้นมาก ๆ ครับ จนตอนนี้ก็กำลังจะได้มาเล่นจริง ๆ แล้ว เยี่ยมไปเลยครับ
จะมีอะไรที่พิเศษเกิดขึ้นในโชว์ที่กรุงเทพ ฯ บ้าง
ผมจะพยายามเล่นเพลงที่มีอยู่ให้ได้มากที่สุด แล้วก็อยากให้คนดูสามารถรู้สึกกับเพลงของผมให้ได้มากที่สุดครับ ทุกอย่างจะเกิดขึ้นอย่างเรียบง่ายที่สุด แต่ทำให้ทุกคนประทับใจมากที่สุดครับ
ฝากอะไรถึงแฟน ๆ หน่อย
ตื่นเต้นมากครับที่จะได้กลับไปเล่นที่กรุงเทพ ฯ แล้วก็อยากให้ทุกคนที่ได้มาสนุกไปกับโชว์ของผม เพราะพวกเราก็มีความสุขที่ได้ไปเล่นที่ประเทศไทยครับ ไว้เจอกันนะครับ