Ratatat ดูโอ้สุดเพี้ยนกับอิเล็กทรอนิกร็อกที่ไม่เหมือนใคร
- Writer: Montipa Virojpan
- Photographer: Chavit Mayod
ก่อนที่เราจะไปมันกับคอนเสิร์ตที่ Have You Heard? ได้ชวนสองคู่หูนักดนตรีจากบรูคลินมาแสดงใน Singha Light Live Series Vol. 1 – RATATAT! เราถือโอกาสช่วงซาวด์เช็กเข้าไปคุยกับพวกเขาแบบกันเองและเฮฮาสุด ๆ
มีคนบอกว่าพวกคุณเป็นวง experimental progressive electronic rock คุณแคร์ไหมกับการที่โดนจำกัดความแบบนั้น
ไมค์: ไม่แคร์ครับ คือพวกเราก็เป็นแบบที่เขาว่านั่นแหละ แค่ไม่เคยคิดถึงเรื่องอะไรแบบนี้ แต่โอเค มันก็เป็นการที่คุณจะได้ไปเล่าให้เขาฟังได้ว่าวงเราเป็นประมาณไหน ซึ่งเวลาอยู่ในวงเราก็ทำหน้าที่ของเราไป ทำเพลงไปเรื่อย ๆ
แล้วถ้ามีคนบอกว่าพวกคุณเป็นกีตาร์ฮีโร่ล่ะ
อีวาน: ก็เจ๋งดีนะ มีคนเรียกเรางั้น
ไมค์: แต่ผมคิดว่าเราไม่ใช่เลย แต่เรามีกีตาร์เยอะนะ
ทำเพลงกันสองคนยากมั้ย
ไมค์: บางครั้งก็ลำบากนะ แต่มันก็ดีตรงที่พอคนน้อย ๆ ก็ไม่ค่อยมีเรื่องดราม่าให้ปวดหัว แล้วมันก็ทำให้ตัดสินใจหลาย ๆ เรื่องง่ายขึ้นด้วย ขณะเดียวกันมันก็ทำให้งานไม่ค่อยกระเตื้องไปไหน ประมาณว่าเราไม่สามารถถ่ายทอดอะไรไปได้มากกว่าแค่มุมมองของพวกเราสองคน แค่สองหัวเนี่ย (หัวเราะ) แต่คงไม่เอาใครมาเป็นสมาชิกอีกแล้วล่ะ จะมีใครเพี้ยนแบบพวกเราอีกหรอ
แล้วทำไมทำแต่เพลงบรรเลง
อีวาน: มันก็เป็นหนึ่งในหลาย ๆ วิธีในการเล่าเรื่องหรือสื่อสารอะไรบางอย่างจากเรา แล้วมันก็เป็นอะไรที่สดใหม่ เสมอ บางทีเราเริ่มจากแค่จังหวะ บางทีก็มาเป็นทำนอง แต่มันสนุกมากเลยนะ
ไมค์: บางครั้งเราแค่ลองอัดเข้ามือถือง่อย ๆ แล้วฮัม บลา ๆๆๆๆ เข้าไป (หัวเราะ)
อีวาน: เพลงเราเลยออกมาเป็นแบบ โบล่ ๆ เบล่ ๆ แบะ ๆๆๆ (สองคนนี้ทำเสียงร้องไม่เป็นภาษาพร้อมกับทำหน้าตลก ๆ)
ได้ใส่เรื่องส่วนตัวเข้าไปในเพลงบ้างไหม
อีวาน: ผมไม่ค่อยแน่ใจแฮะ แต่ถ้าผมเขียนเพลงที่มีเนื้อร้องผมก็อาจจะเล่าเรื่องของผมลงไปในนั้นตรง ๆ ก็ได้ ส่วนของพวกเรามันเหมือนการได้ไปฟังเพลงของใคร หรือรู้สึกตื่นเต้นกับอะไร มักจะเป็นการทดลองหรือคิดกันได้ตรงนั้นมากกว่าจะมาจากประสบการณ์ของเรานะ
ไมค์: เราทำงานกันหนักอยู่เหมือนกันแหละ แต่หลาย ๆ ทีเราไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามันโผล่มาจากไหน ก็จากที่ลอง ๆ แจมกันดู หรือไม่ก็แค่นั่งอยู่ที่ห้องในโรงแรมแล้วก็มีไอเดียมา
อะไรทำให้พวกคุณแตกต่างจากวงอื่น ๆ
อีวาน: พวกผมหล่อครับ (หัวเราะ)
ไมค์: ผมของเราไม่เหมือนใคร… วงเราไม่มีนักร้อง… ไม่รู้สิครับ
เคยทำเพลงที่มีกลิ่นฮิปฮอปด้วยในอัลบั้ม Beats
ไมค์: ใช่ ๆ คือเหมือนตอนนั้นพอเราเริ่มเหนื่อยกับการคิดเรื่องโปรดักชันของวง เราก็หนีไปฟังฮิปฮอป แล้วตอนนั้นมันก็ได้แรงบันดาลใจเยอะมากในการทำโปรดักชันแบบที่ฮิปฮอปเขาทำกัน แต่มันก็นานมากแล้วนะ เป็นสิบปีแล้ว
อ่านเจอใน genius.com ว่า พวกคุณไม่แคร์เวลาคนเปรียบเทียบวงของคุณกับวงนั้นวงนี้ แต่พอมาเจอ Springwaterตอนนั้นรู้สึกยังไง
ไมค์: เออ คือมันตื่นเต้นมากนะ มีหลายคนบอกเรามานานแล้วว่าเพลง Ratatat คล้าย ๆ กับเพลงของ Springwater นะ ซึ่งตอนแรกเราก็ไม่เห็นด้วยกับเขา แบบ ไม่เหมือนหรอก แต่พอได้ฟังแล้ว …ซาวด์แม่งเหมือนกันเลยว่ะ (หัวเราะ) คือมันตื่นเต้นจริง ๆ นะตอนนั้น กับเพลงที่ทำไว้ตั้งแต่ยุค 70s แล้วทั้งชุดนั้นดีมาก ๆ เป็นเพลงบรรเลงเหมือนกัน ก็เลยลองทำคัฟเวอร์ดู
แล้ว I Will Return ของ Ratatat กับของ Springwater ต่างกันตรงไหน
ไมค์: ผมว่าโปรดักชันของเรากับ Springwater เนี่ยแหละที่ต่างกันมาก ๆ แต่ซาวด์คือแทบจะเหมือนต้นฉบับเลย
อีวาน: สำหรับผม เพลงของเราน่าจะหนักกว่า เพราะเน้นที่กีตาร์กับกลองด้วย
ไมค์: ไปลองฟังดูนะครับ
อีวาน: คือมันเป็นเพลงที่คนรู้จักน้อยมาก ก็เลยอยากที่จะแนะนำให้ทุกคนได้รู้จักเพลงนี้
คิดว่าอัตลักษณ์ในเสียงของแต่ละวงสำคัญไหม
อีวาน: ผมว่าสำคัญนะ วงเดี๋ยวนี้ซาวด์เหมือนกันหมดเลย (หัวเราะ) มันอาจจะไม่ได้ช่วยให้คุณประสบความสำเร็จได้ แต่สำหรับพวกเราแล้วในการทำเพลงมันสำคัญมาก
ไมค์: เอาง่าย ๆ แค่เวลาที่พวกเราทำเพลงใหม่กันแล้วซาวด์ดันไปเหมือนกับเพลงก่อน ๆ ที่เคยทำไว้ มันดูไร้ประโยชน์ แต่สำหรับวงใหญ่ ๆ ที่เขาประสบความสำเร็จกันแล้วมันอาจจะไม่ใช่เรื่องสำหลักสำคัญอะไรแล้วก็ได้
สิ่งที่ยากที่สุดในการทำเพลงแบบนี้คืออะไร
ไมค์: เขียนเพลงเนี่ยแหละครับ
อีวาน: เวลาที่เขียนเพลงใหม่มันจะมีความท้าทายเกิดขึ้นอยู่เรื่อย ๆ ทุกเพลงครับ แตกต่างกันไป ไม่สามารถคาดการณ์ไว้ก่อนได้เลยว่าจะเจอกับอะไรหรือต้องรับมือกับอะไรบ้าง
ไมค์: เราอาจจะมีความมั่นใจมาก ๆ ในการสร้างงานอันนึงขึ้นมา แต่แล้วจู่ ๆ วันนึงพอเข้าห้องอัด เหมือนไม่รู้จะหยิบจับอะไรก่อน แบบตอนที่ไอเดียมา เราจะมีเมโลดี้มาในหัวก่อนใช่มั้ย แล้วพออีกวันนึง สมองคุณก็แบลงค์ไปเลย อะไรก็เกิดขึ้นได้
อัลบั้มชุดล่าสุด Magnifique มีคอนเซปต์ว่ายังไงบ้าง
ไมค์: มันไม่ได้มีคอนเซปต์ขนาดนั้นหรอครับ (หัวเราะ)
อีวาน: ถ้าพูดถึงเพลงมันจะมีกีตาร์เพิ่มเข้ามามากกว่าชุดก่อน ๆ มีใส่แซมพลิงมากขึ้น ดนตรีมีความซับซ้อนขึ้น
ใช้เวลาทำงานถึง 4 ปีกว่าจะเสร็จ
ไมค์: เราไม่ได้ทำงานชุดนี้ตลอดทั้งปีครับ ก็มีพักวงไประยะนึง เพราะตลอดเวลาสิบกว่าปีที่ผ่านมาเราทำเพลง เข้าห้องอัด ทัวร์คอนเสิร์ตกันตลอดไม่ได้หยุดเลย แล้วช่วงที่หยุดไปนี่ก็เป็นเวลาที่ได้มานั่งคิดว่าจะทำเพลงชุดใหม่ออกมาให้เป็นซาวด์แบบไหนดี ซึ่งมันก็ใช้เวลานานพอสมควรกว่าจะเจอเสียงที่ลงตัว บางเพลงอาจจะคิดได้ในวันเดียวเลย แต่บางเพลงก็กินเวลาเป็นเดือน ๆ เหมือนกัน
เอาจริง เคยใช้เวลาทำอัลบั้มนานสุดกี่ปี
ไมค์: 5 ปีครับ (หัวเราะ) ตอนเราทำอัลบั้ม 3 กับ 4 นี่ใช้เวลาเร็วมากนะ ชุด 3 นี่ทำแค่ 3 สัปดาห์เอง ส่วนชุด 4 ก็เป็นเพลงที่ใส่ในชุด 3 ไม่พอเลยเอามาขยายต่อ เลยเสร็จไวมาก ๆ
แล้วคนบนปกอัลบั้ม Magnifique นี่เป็นใครกันบ้าง
อีวาน: ก็สุ่มมามั่ว ๆ เลยครับ ไม่มีทิศทางกำหนดตายตัวเลย ส่วนใหญ่เอามาจากหนังสือพิมพ์ บางทีก็เลยมีคนที่เราคุ้นหน้าคุ้นตากันบ้าง
ไมค์: หลายคนในนี้ก็มีตัวตนจริง ๆ แต่บางคนเราก็สร้างขึ้นมาเอง
ตอนปล่อยชุดล่าสุดออกมาแฟนเพลงเหวอไหมเพราะมันต่างจากงานก่อน ๆ
อีวาน: ดีนะครับ
ไมค์: จริง ๆ มันมีกระแสด้านลบมาบ้าง แต่โดยรวมถือว่าดีนะครับ อย่างในยุโรปนี่ดีมาก ๆ
ชอบงานชุดไหนของตัวเองที่สุด
อีวาน: ชุดล่าสุดนี่แหละครับ Magnifique
ไมค์: เพราะว่ามันใหม่สุดครับ (หัวเราะ) ไม่รู้สิครับ ผมว่าเพลงชุดใหม่มันดีกว่า พัฒนากว่าชุดก่อน ๆ เราใช้เวลาคิดโปรดักชันกีตาร์กันพอสมควร ก็เลยคิดว่า อันนี้แหละ ภูมิใจมาก
อยากให้คนฟังใหม่ ๆ ได้ลองฟังเพลงอะไรของ Ratatat เพื่อจะได้รู้จักพวกคุณได้ดีมากขึ้น
อีวาน: Abrasive ครับ
ไมค์: ใช่ เป็นเพลงที่ดีฮะ
จากการที่อยู่ในวงการมา 15 ปี คุณมองเห็นความเปลี่ยนแปลงอะไรบ้างในอุตสาหกรรมดนตรีของอเมริกา
ไมค์: มันต่างกันมากเลย คือเดี๋ยวนี้เราไม่สามารถคาดหวังกับยอดขายอัลบั้มได้แล้ว (หัวเราะ) ถ้าคุณไม่ใช่ Adele หรืออะไรประมาณนั้น
อีวาน: แต่เราก็โชคดีนะที่ได้ทำในสิ่งที่เราชอบ แล้วมีคนที่ชอบงานของเรา มีคนติดตามเราในโซเชียลมีเดียบ้าง
ไมค์: แล้วก็ตลกดีที่เราก็ทำอัลบั้มเป็นไวนิล แล้วก็ยังมีคนซื้อไวนิลกันอยู่นะ แถมดูจะอินกับฟอร์แมตนี้มาก… ไม่รู้สิ ผมพยายามจะไม่คิดถึงเรื่องพวกนี้เท่าไหร่ ทางที่ดีที่สุดก็แค่ทำเพลงของเรา และสนุกกับมันต่อไป
แล้วตัวของพวกคุณเองล่ะ เปลี่ยนแปลงไปยังไงบ้าง
อีวาน: ผมว่าผมไม่เปลี่ยนเลยนะ (หัวเราะ)
ไมค์: ไม่รู้สิ แต่ตลอดเวลานี้เราก็ได้เดินทางไปหลายที่มาก ๆ ได้เจออะไรเยอะ ซึ่งสิ่งเหล่านั้นดูจะแปลกแตกต่างกว่าพวกเราเพราะเราก็เป็นของเราอย่างนี้มาตลอด (หัวเราะ)
ชอบเวลาไปเล่นที่ไหนที่สุด
อีวาน: เป็นโชว์เมื่อสองสามปีก่อนแล้วล่ะครับ ที่ญี่ปุ่น ที่ฝรั่งเศสก็ดี
ไมค์: ที่อิสตันบูลเจ๋งมาก สิบปีได้แล้วมั้งนั่น ผมก็ชอบที่ฝรั่งเศสเหมือนกัน
ปีก่อนได้ไปเล่นที่งาน Neon Lights ที่สิงคโปร์ แล้วเราก็ได้ไปดูพวกคุณด้วย คิดว่าคนดูที่นั่นเป็นไง
ไมค์: หือ งานนั้นก็ดีนะ เป็นกลุ่มที่น่าจะสนุกกับเพลงเราที่สุดในทัวร์ครั้งนั้นแล้ว แบบคนดูแอคทีฟ แต่อากาศร้อนมาก
เทียบกับอากาศที่เมืองไทยตอนนี้
ไมค์: โห ไม่ร้อนเท่านี้ครับ (หัวเราะ)
เอเชียทัวร์รอบนี้เลือกไทยเป็นที่แรก เดี๋ยวจะไปเล่นที่ไหนอีก
อีวาน: ครับ ก็วางแผนทัวร์กันทั้งหมด 3 สัปดาห์ เดี๋ยวจะไปอินโดนีเซีย จีน แล้วก็เวียตนาม แล้วไปฝรั่งเศสต่อเลย
ตื่นเต้นไหมที่ได้มาเล่นที่นี่
Ratatat: มาก ๆ เลยครับ อยากมานานแล้ว
คาดหวังอะไรกับโชว์คืนนี้
อีวาน: ไม่รู้จะหวังอะไร แต่คิดว่ามันจะต้องสนุกแน่ ๆ ครับ
ฝากอะไรถึงแฟน ๆ หน่อย
ไมค์: เราตื่นเต้นมากกับโชว์นี้ ขอบคุณที่ชวนพวกเรามาเล่นที่นี่นะครับ
รอดูกันต่อว่ารอบหน้า Have You Heard? จะพาใครมา แต่บอกใบ้ว่าเป็นวงพีค ๆ ที่รอบนี้มาเล่นที่บ้านเราเป็นรอบที่ 3 แล้ว ใครพลาดสองรอบแรกก็ตามมาแก้ตัวได้ เจอกันกรกฎาคม ถ้ามีโอกาสเราจะเก็บบทสัมภาษณ์มาฝากกันอีก
ขอขอบคุณ Have You Heard?