Poppy เมื่อเน็ตไอดอลสีพาสเทลสุดเฮี้ยน ผันตัวเป็นศิลปินเมทัลลุคโหด
- Writer: Montipa Virojpan
- Visual Designer: Tas Suwanasang
เมื่อไม่นานมานี้เราตื่นเต้นมากกับการได้ค้นพบศิลปินคนนึงโดยบังเอิญ เราสนใจความประหลาดในส่วนผสมของเธอ แม้จะผมบลอนด์สวยเหมือนตุ๊กตาบาร์บี้ เมคอัพคอสตูมฉูดฉาด ทำเพลงอินดี้ป๊อปสมัยนิยม แต่มิวสิกวิดิโอของเธอก็มีบรรยากาศลุ่มลึกชวนหลอน พอฟังไปสักพักทำไมเนื้อเพลงถึงร้องเกี่ยวกับอะไรสยอง ๆ เช่น สมองไหล จนพ้นคอรัสใส ๆ นั้นไปแล้ว ก็พาให้เรามาพบกับกีตาร์หนัก กลองกระเดื่องคู่ และการกรีดร้องอย่างเกรี้ยวกราด จนเราต้องหาผลงานอื่น ๆ ของสาวปริศนาที่ชื่อ Poppy มาฟัง และตามต่อว่าเธอเป็นใครมาจากไหน
แต่เมื่อเราค้นไปลึก ๆ แล้วก็พบว่า เธอคือคนเดียวกันกับ That Poppy อินเทอร์เน็ตสตาร์บน YouTube ที่เริ่มปรากฏตัวเมื่อปลายปี 2014 เธออัพโหลตคลิปแรกที่ชื่อ ‘Poppy Eats Cotton Candy’ ที่กินขนมสายไหมให้เราดูเป็นเวลานาทีครึ่ง โดยมีเสียงเคี้ยวและเสียงพึงพอใจของเด็กสาวเป็นแอมเบียนต์ประกอบทั้งคลิป (หรือว่าไอ้ความผ่อนคลายแบบ weird ๆ นี้จะเป็นต้นกำเนิดของคลิป ASMR ในเวลาต่อมากันนะ) นอกจากนี้ยังมีวิดิโอที่เธอพูดด้วยไดอะล็อกแปลก ๆ คนเดียว ไม่ก็คุยกับหุ่นลองเสื้อชื่อชาร์ล็อต กางร่มและหมุนตัวไปเรื่อย ๆ พร้อมเสียงเฮลิค็อปเตอร์ หรือเอาแต่พูดว่า ‘I’m Poppy’ ตัดสลับมุมกล้องไปมาเป็นเวลา 10 นาที (แต่คลิปนั้นมีคนดูถึง 23 ล้านครั้งทีเดียว) ฯลฯ
ท่ามกลางความสงสัยและสนใจของสื่อต่าง ๆ เธอจึงถูกเชิญไปออกอากาศในหลายรายการ การไม่เปิดเผยชีวิตส่วนตัว และคงความเป็นตัวตนสมมติ ทำให้เป็นที่สนใจต่อสาธารณชนในฐานะ ‘หญิงสาวปริศนาจากโลกอินเทอร์เน็ต’ ไม่ว่าจะขุดค้นอย่างไรก็ไม่มีใครรู้ได้ว่าเธอเป็นใครมาจากไหน หลายคนก็เลยเลิกถามว่า ‘เธอเป็นใคร’ แต่เลือกจะไป follow เพราะอยากรู้ว่าเธอจะทำอะไรประหลาด ๆ หรือมีเซอร์ไพรส์อะไรให้เราดูอีก ผลคือทุกวิดิโอของเธอมีคนดูรวมกว่าสองร้อยล้านวิว แถมยังมีกลุ่มแฟนคลับตามเว็บบอร์ดที่เรียกตัวเองว่า ‘Poppy Seeds’ เสียอีก
แต่แล้วก็เริ่มมีชาวเน็ตมือดีไปขุดคุ้ยตัวตนที่แท้จริงของเธอและพบว่า ชื่อจริงของเธอคือ Moriah Rose Pereira มาจาก Nashville รัฐ Tennessee เธอเคยมีผมสีบรูเน็ต มีคลิปร้องเพลงคัฟเวอร์และทำผลงานเพลงมาก่อน แต่เพราะเด็กสาวอัพคลิปตัวเองร้องเพลงมีอยู่เกลื่อนอินเทอร์เน็ต เธอเลยเปลี่ยนชื่อ เปลี่ยนบุคลิก รูปลักษณ์ ให้เป็นสาวผมบลอนด์ ตาโต เสียงเล็กแหลมเหมือนเด็ก แถมยังมีกิริยาท่าทางไม่เหมือนมนุษย์—คล้ายเป็นหุ่นยนต์ หรือตุ๊กตาหุ่นเชิด การสร้างความน่าสนใจและทำให้มวลชนเกิดความสงสัยใคร่รู้นี้เอง ที่ทำให้เธอกลายมาเป็น interner star ดวงใหม่
ไม่นานนัก ชาวเน็ต (อีกแล้ว) ก็รู้สึกคลับคล้ายคลับคลาว่าเมื่อปี 2008 มีศิลปินคนนึงที่ทำคลิปลักษณะใกล้เคียงกันนี้ออกมาก่อนโดยใช้ชื่อว่า Mars Argo เหตุนี้เลยทำให้ Poppy กลายเป็นผู้ต้องสงสัยว่า เธอขโมยตัวตนของ Mars Argo ทำไม (ชาวฉอดในทวิตเตอร์ก็คงจะโวยว่า ‘คิดว่าโง่หรอ นี่มีอินเทอร์เน็ตแล้วนะ ไม่ได้อยู่ในกะลา’ เอ๊ะ คุ้น ๆ มั้ย)
Mars Ago คือชื่อในวงการของ Brittany Alexandria Sheets นักร้อง นักแต่งเพลง ที่ร่วมงานกับ Corey Mixter แฟนหนุ่มนักดนตรี และโปรดิวเซอร์ที่ใช้นามแฝงว่า Titanic Sinclair ทั้งคู่เริ่มเดตกันผ่านเว็บไซต์ myspace จนในปี 2009 พวกเขาปล่อยอัลบั้มเต็มชื่อ Technology is a Dead Bird ออกมา หากยังจำกันได้ มันเป็นช่วงที่หลายคนเริ่มตื่นตัวกับ social media ในอัลบั้มเพลงอัลเทอร์เนทิฟป๊อปนี้เลยมีองค์ประกอบของซาวด์ futuristic ความเป็นดิจิทัล หรือหุ่นยนต์ เนื้อหาส่วนใหญ่ตระหนักถึงอินเทอร์เน็ต เทคโนโลยี และความสัมพันธ์ในโลกไร้พรมแดน
จากนั้นในแชแนล grocerybagdottv ก็มีการอัพโหลดรายการ ‘Computer Show’ กับเนื้อหาวิจารณ์เสียดสี internet culture แต่ทั้งสองคนจะพูดจาแปลก ๆ ทำท่าทางเหมือนตัวละครในการ์ตูนมากกว่าคนทั่ว ๆ ไป ตอนนั้นเองที่ผู้คนจดจำ Mars Argo ในฐานะหนึ่งในวงดนตรีที่ใช้แพลตฟอร์มออนไลน์ในการสื่อสาร ประกาศจุดยืน สร้างตัวตน และโปรโมตผลงานได้ทรงประสิทธิภาพ จนเกิดผู้ติดตามมากมาย
แต่ภายหลังที่ Mars Argo เลิกรากับ Titanic Sinlclair พวกเขาก็อัพโหลดวิดิโอตอนหนึ่งชื่อว่า ‘Delete Your Facebook’ ที่มีใจความสำคัญว่าเดี๋ยวนี้คนจะทำอะไรก็อยู่แต่ในเฟซบุ๊ก อย่าปล่อยให้มันมาเป็นทุกสิ่งในชีวิตมากจนเกินไป
จนเกิดเรื่องไม่ชอบมาพากลเมื่อต้นปี 2014 ช่อง YouTube ของพวกเขาไม่มีความเคลื่อนไหว และวิดิโอถูกลบออกไปจนเหลือแค่ 3 ตัว คือ ‘Delete Your Facebook’ กับเพลง Using You (2011) และ Runaway Runaway (2013) มิหนำซ้ำ ช่องทางการสื่อสารบนโลกออนไลน์ของ Mars Argo ก็ถูกลบออกไปจนหมด
ในปลายปีเดียวกันก็มีแอคเคาต์ของสาวปริศนา Poppy โผล่มาเคี้ยวสายไหมให้เราดู แม้หน้าตาและบุคลิกจะต่างจาก Mars Argo โดยสิ้นเชิง แต่คนก็จับสังเกตบีตการพูด ลักษณะท่าทาง การใช้โทนเสียงแหลม ๆ มุมกล้องถ่ายทำ และรายละเอียดบางอย่างของวิดิโอก็ทิ้งร่องรอยให้โยงไปถึงงานเก่า ๆ ของ Mars Argo ทำให้แฟน ๆ ที่เคยติดตาม Mars Ago อดสงสัยไม่ได้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับเธอ มิหนำซ้ำ ทำไมยังลอกบุคลิกของเธอมาอีก
ในเวลาต่อมา Titanic Sinclair ก็ออกมาปรากฏตัวในวิดิโอของเธอ (เริ่มปะติดปะต่อได้แล้วรึยัง) และ ‘รับบท’ ผู้ควบคุม ‘สิ่งที่เรียกว่า Poppy’ (ในวิดิโอเธอถูกทำให้เป็นเหมือนวัตถุ สัตว์เลี้ยง ไม่มีชีวิตจิตใจอย่างที่ควรจะเป็น) ทำให้คนที่ตามข่าวนี้ถึงบางอ้อ ว่าแท้จริงแล้ว Titanic Sinclair คือผู้อยู่เบื้องหลังการสร้างสรรค์ผลงานของทั้งสองคน ดังนั้นแล้วเธอจึงเป็นโปรเจกต์ที่สานต่อสิ่งที่เขาเคยร่วมทำกับ Mars Argo นั่นเอง
เธอปล่อยอัลบั้ม Poppy.Computer ออกมาในปี 2017 ดนตรีป๊อปของเธอยังได้อิทธิพลจาก digital age เกมคอนโซล วัฒนธรรมคาวาอี้แบบญี่ปุ่น และ social network แม้ยังคงสไตล์สาวผมบลอนด์สีพาสเทลอยู่ แต่หลายคนจะเริ่มสังเกตว่า sense of fashion ของเธอมีพัฒนาการขึ้นมาก กับคอสตูมและเมคอัพสุดโต่ง ไปจนถึงมิวสิกวิดิโอที่ดูโตขึ้น ไปจนถึงประหลาดขึ้นกว่าเดิม
เรื่องร้อนระอุขึ้นอีกเมื่อเดือนเมษายนปี 2018 Mars Argo กลับมาปรากฏตัวพร้อมการฟ้องร้องหลังจากเงียบหายไปตั้งแต่ปี 2015 ว่า เธอถูกสะกดรอย (stalk) ถูกกระทำการที่เป็นอันตรายต่อร่างกาย จิตใจ และถูกควบคุมทั้งระหว่างที่คบหา และหลังจากเลิกรากับ Titanic Sinclair ในเอกสารฟ้องร้องความยาวถึง 44 หน้า มีหลักฐานที่เป็นภาพถ่ายความเสียหายที่เกิดขึ้นภายในบ้าน และโซเชียลมีเดียของทั้งคู่ และเรื่องนี้ยังโยงไปถึง Poppy ในฐานะผู้สมรู้ร่วมคิดกับ Sinclair ในการกระทำมิชอบดังกล่าว ทั้งยังลอกเลียนทำซ้ำสไตล์ บุคลิก การสร้างสรรค์งาน และละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาของเธอ นำไปใช้เพื่อสร้างชื่อเสียง
หนึ่งเดือนให้หลัง Poppy ออกมาปฏิเสธข้อกล่าวหา ทั้งยังโต้กลับว่าเป็นคำให้การที่เกินจริง ด้วยเหตุผลที่ต้องการทวงคืนชื่อเสียงที่เธอคิดว่าถูกขโมยไป รวมถึงอ้างว่าเธอและ Mars Argo เคยรู้จักกันมาก่อน ทั้งยังกล่าวว่า Mars Argo รู้เหตุผลที่เธอไม่เปิดเผยชีวิตส่วนตัว เพราะเคยเจอผลกระทบของการถูกล่วงละเมิดจากชายผู้ที่กำลังจะร่วมงานกับ Mars Argo ในอัลบั้มใหม่ที่จะปล่อยออกมาในปี 2020 (เชื่อว่าเป็น Mosh Joran โปรดิวเซอร์และนักดนตรีที่เธอเคยมีกรณีพิพาทด้วยเมื่อปี 2015 แต่ภายหลังเขาก็ออกมาชี้แจงว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในเรื่องนี้) จึงเป็นไปไม่ได้ที่เธอจะเป็นผู้สมรู้ร่วมคิดกับ Sinclair กระทำการอย่างที่ถูกกล่าวหา รวมถึงเชื่อว่า Sinclair เป็นผู้บริสุทธิ์
ทีมผู้เชี่ยวชาญทางกฎหมายชี้ว่า ด้วยหลักฐานที่ Mars Argo ชี้แจงว่าสิ่งที่สามารถฟ้องร้องได้คือการหยิบผลงานดนตรีกรรม ภาพเคลื่อนไหว หรืองานศิลปะมาฟ้องเป็นงาน ๆ มากกว่า แต่การถูกทำซ้ำ เช่น การใส่เสื้อลายเสือดาวแบบเดียวกัน มีวิดิโอที่มีเลือดไหลที่มุมปากเหมือนกัน หรือตั้งชื่อวิดิโอเหมือนกัน ไม่เพียงพอต่อการยื่นฟ้องกรณีที่ถูกลอกเลียนอัตลักษณ์ เพราะ Mars Argo ไม่ได้เป็นการพัฒนาตัวละครโดยสมบูรณ์ ไม่มีเรื่องราวที่มาที่ไปเบื้องหลัง ไม่มียูนิฟอร์มประจำตัวแบบพวกตัวละครที่เราจำกันได้อย่าง Snoopy, Sailor Moon, Batman และมีคนมากมายที่สามารถมีพฤติกรรมคล้ายเธอ เพราะปฏิเสธไม่ได้ว่าในยุคนี้ก็มีหลายคนเหลือเกินที่ใช้พื้นที่ออนไลน์ในการเลียนอัตลักษณ์กันไปมา และขณะเดียวกันกัน Poppy ไม่ได้นำชื่อ Mars Argo ไปใช้เพื่อแอบอ้างโปรโมตผลงาน การฟ้องนี้จึงยิ่งไม่มีน้ำหนัก ผลสุดท้ายคือข้อกล่าวหาต่อเธอและ Titanic Sinclair ถูกยกฟ้อง แต่ Mars Argo ได้ลิขสิทธิ์ในการถือครองผลงานที่ใช้ภายใต้ชื่อของเธอ โดย Sinclair ต้องลบและทำลายภาพ รวมถึงผลงานที่กำกับชื่อ Mars Argo ที่อยู่ในครอบครองของเขาทั้งหมด
เมื่อเรื่องร้ายผ่านไป ก็ได้เวลาที่ Poppy จะปล่อยอัลบั้มใหม่ Am I A Girl? โดยดนตรีของเธอมีความหม่นขึ้น เป็นอิเล็กทรอนิกร็อก ผสมผสานฮิปฮอป ตอนนี้เองเธอได้รับความสนใจจากสื่อไม่เพียงแต่การเป็น YouTube star แต่เป็นศิลปินป๊อปที่ได้รับการยอมรับในวงการดนตรี และได้ร่วมงานกับศิลปินมากมายทั้ง Grimes หรือ Diplo ส่วนวิดิโอก็ยิ่งเพิ่มดีกรีความดาร์กหม่นขึ้นเรื่อย ๆ เนื้อหาเริ่มตึงเครียด พูดเรื่อง futuristic หรือบางทีก็ดูน่ากลัว จากพื้นหลังสีพาสเทลก็กลายมาเป็นสีขาว เมคอัพสีเข้มดูน่าเกรงขาม เสื้อผ้าที่เธอใส่ก็ดูเหมือนหลุดออกนอกโลกไปแล้ว
ต้นปี 2019 เธอได้ปล่อยหนังสือนิยายภาพเล่มแรก ‘Genesis 1’ เป็นเรื่องราวต้นกำเนิดของ Poppy กับคำโปรยที่ยกเอาสิ่งที่ชาวเน็ตสงสัยในตัวเธอตลอดมาว่า ‘เธอคือใคร หรืออะไรกันแน่?’ โดยมีอัลบั้มเพลงบรรเลง I C U: Music to Read To ปล่อยออกมาพร้อมกันให้ฟังประกอบการอ่าน
กลางปี 2019 Poppy ก็ปล่อย EP Choke ออกมา พร้อมด้วยดนตรีที่เป็นอิเล็กทรอนิกหนักหน่วงขึ้น เนื้อหาก็ดาร์กขึ้นกว่าเดิมอย่างเห็นได้ชัด แถมบางเพลงยังได้อิทธิพลจากดนตรีเมทัล เพิ่มความโหดด้วยการชวน Fever 333 มาร่วมงาน ภาพสาวใสถูกสลัดทิ้งออกไปอย่างสิ้นเชิง และถูกแทนที่ด้วยสาวดาร์กสุดคลั่ง จนเราได้เค้าลางว่า ทิศทางผลงานของ Poppy ในอนาคต จะต้องมีอะไรที่เราคาดไม่ถึงรออยู่อย่างแน่นอน
แต่ความคาดไม่ถึงนั้นกลับออกมาในรูปแบบของเรื่องราวที่น่าหดหู่ เมื่อต้นเดือนธันวาคมปี 2019 เธอลบเครดิตทุกอย่างที่ Titanic Sinclair มีส่วนร่วม รวมถึงวิดิโอที่เขาปรากฏตัวใน YouTube channel ของเธอออกไปจนหมด รวมถึงโซเชียลมีเดียทั้งเฟซบุ๊กเพจและทวิตเตอร์ พวกเขาก็ unfollow ซึ่งกันและกัน ทั้งยังลบภาพกับข้อความที่แท็กกันไปจนหมด และปลายเดือนนั้นเธอก็ออกมาชี้แจงผ่านทวิตเตอร์ส่วนตัวว่าเธอจะไม่ร่วมงานกับเขาอีกต่อไป สืบเนื่องจากคดีของ Mars Argo มีส่วนนึงของการยื่นฟ้องที่เป็นจริง นั่นคือมีการข่มขู่ และเล่นสงครามประสาทเกิดขึ้นระหว่างการร่วมงานของเธอและ Sinclair ดังเช่นที่ Mars Argo เคยประสบ เธอรู้สึกแย่ที่เคยปกป้องเขาในครั้งนั้น แฟนเพลงก็ออกมาให้กำลังใจถึงขนาดใส่แท็ก #SinkTitanic ในทวิตเตอร์กันเลย
— Poppy (@poppy) December 28, 2019
เป็นครั้งที่สองที่เธอต้องกดปุ่ม reset เส้นทางการเป็นศิลปินของเธอ คราวนี้เธอเซ็นสัญญากับค่ายเมทัล Sumerian Records และเดินหน้าในสายดนตรี progressive metal อย่างเต็มตัว เธอเปิดตัวโฉมใหม่ที่น่าเกรงขามและซีเรียสกว่าเดิมด้วยเพลง Concrete กับเนื้อเพลงที่พิลึกพิลั่น อย่างการบอกว่าอยากถูกฝังลงไปใต้พื้นคอนกรีต อยากกินเลือดสด ๆ ต่อด้วยเพลง I Disagree ที่ยังเจือความชื่นชอบวัฒนธรรมญี่ปุ่นไว้ในเพลงดุ ๆ ตามด้วย Bloodmoney ที่วิพากษ์ทุนนิยม รวมถึงตั้งคำถามกับศาสนจักรผ่านสัญญะในมิวสิกวิดิโอ
จนในที่สุด มกราคม 2020 เธอปล่อยอัลบั้มชุดที่ 4 I Disagree กับดนตรีที่ผสมเอาทั้ง ป๊อป ฮิปฮอป อิเล็กทรอนิก new metal และ thrash metal เป็นคอนเซ็ปต์ที่เธอได้ปลดแอกตัวตน และได้พูดในสิ่งที่อัดอั้นมานาน รวมถึงหลาย ๆ คนตื่นเต้นมากที่ได้เห็นเธอทำผมสีบรูเน็ตภายใต้ชื่อ Poppy เป็นครั้งแรกในเพลง Anything Like Me เธอให้สัมภาษณ์กับสื่อหนึ่งถึงเรื่องราวที่เธอต้องการสื่อผ่านอัลบั้มนี้ เธอบอกว่า “อัลบั้มนี้ฉันพูดถึงเรื่องการบังคับใช้อำนาจ ฉันไม่กลัวที่จะเผาทุกอย่างทิ้งและเริ่มต้นใหม่… อย่าปล่อยให้ความกลัวซึ่งความไม่แน่นอน มาหยุดการก้าวไปข้างหน้าของคุณ”
แม้จะเป็นความจริงที่ว่า Poppy ได้สละโลกสีพาสเทลของเธอเข้าสู่ความมืดมิดอย่างเต็มตัว แฟนเพลงบางคนอาจไม่ถูกใจสิ่งนี้ แต่เราก็ต้องยอมรับว่านั่นเป็นโลกที่ศิลปินได้เลือกแล้ว และหวังว่านี่จะเป็นทางที่เธอได้พบกับความสุขอย่างแท้จริง ทว่าก็ไม่มีอะไรการันตีว่างานชุดต่อไปของเธอจะออกมาเป็นแบบไหน เพราะอย่างที่รู้กัน ผู้หญิงคนนี้สร้างความประหลาดใจให้กับเราเสมอ
อ้างอิง
The lawsuit against P and her creator has been dismissed
P Responds to Mars Argo Copyright Suit, Calls It ‘Desperate Grab for Fame’
Did YouTube Phenomenon P Steal Her Style From Another Star?
P Parts With Creative Partner Titanic Sinclair
อ่านต่อ
Gorillaz ความสำเร็จของ Visual Band ที่ทลายเส้นแบ่งโลกจริงกับจินตนาการ
‘Love & Mercy’ วิกฤติชีวิต Brian Wilson แห่ง The Beach Boys ที่ยังเชื่อว่า ความรักและความปรานีทำให้โลกไม่โหดร้ายเกินไป
‘Arctic Monkeys’ เบื้องหลังความเท่ ลุ่มลึก ของอัลบั้มล่าสุด ในสารคดี ‘Warp Speed Chic’