Fungjaizine ชวนมาคุยเรื่องแรงบันดาลใจในงานเพลงของ of Montreal ก่อนจะไปมันกับพวกเขาต้นเดือนหน้า ใน Singha Light Live Series Vol. 3 – of Montreal

วัฒนธรรมไซคีเดลิกมีอิทธิพลกับคุณยังไง

ส่วนใหญ่จะเป็นลักษณะการทำเพลงของผมที่มันไม่ค่อยอยู่ในกรอบครับ ส่วนตัวผมไม่ได้ใช้พวกสารเสพติดให้เห็นภาพหลอนแล้วมาสร้างงาน ดังนั้นผมคงเรียกตัวเองเป็นศิลปินไซคีเดลิกได้ไม่เต็มปาก แค่ชอบสไตล์ งานกราฟฟิก หรือลักษณะดนตรีของวัฒนธรรมนี้มากกว่า

อะไรทำให้คุณสนใจดนตรีอิเล็กทรอนิก

ผมว่าตอนนี้หลายคนอินกับดนตรีอิเล็กทรอนิกนะ มันเหมาะกับยุคสมัยถึงแม้ว่ามันจะมีมานานแล้วก็ไม่ได้ดูเก่าจนเกินไป เหมือนกับว่ามันเป็นแนวเพลงที่สามารถสร้างสรรค์อะไรใหม่ ๆ ได้เสมอ อาจจะล้ำสมัยไปเลยก็ได้

แล้วทำไมถึงชอบ glam rock กับ progressive rock ล่ะ

ผมชอบ glam rock กับ prog rock ยุค 70s มาก อย่าง David Bowie, T-Rex, Queen, Iggy and the Stooges, King Crimson, Soft Machine ผมว่า glam rock มันเจ๋งที่เขาสามารถเอาสีสัน ความมีชีวิตชีวา และประเด็นความหลากหลายทางเพศมารวมไว้กับดนตรีประเภทนี้ แล้วก็ชอบที่ดนตรี prog rock เพราะมันอัดแน่นไว้ด้วยความเจนจัดกับการใช้เทคนิกขั้นสูงในการถ่ายทอดเพลงแต่ละเพลง

คิดว่าคุณมีวิวัฒนาการทางแนวดนตรีไหม

เรียกว่าไม่มีที่สิ้นสุดเลยก็ได้ ผมพยายามที่จะไม่ยึดติดกับแนวใดแนวนึงไปตลอด พยายามหาแรงบันดาลใจใหม่ ๆ แล้วก็เสาะหาทิศทางของดนตรีใหม่ ๆ เพราะผมเชื่อว่าดนตรีมันคือการปลดปล่อยอารมณ์ความรู้สึก มีความจัดจ้านสดใสด้วยสีสันของมันเอง ส่วนเนื้อเพลงก็มักจะเป็นการระบายหรือสารภาพสิ่งที่อยู่ในใจเรา

คิดยังไงกับการที่คนเรียกวงของคุณว่าเป็นวง cult หรือ niche เฉพาะทาง

ผมก็ไม่ปฏิเสธนะ เพราะพวกเราก็ไม่ได้ประสบความสำเร็จในเชิงพาณิชย์ของดนตรีกระแสหลักเท่าไหร่ เราเป็นพวกคลื่นใต้น้ำมากกว่า คนที่มาเจอแล้วชอบงานเราเขาก็คงจะชอบจริง ๆ

อะไรทำให้คุณสร้างผลงานมากว่า 20 ปีแล้ว

ผมว่าดนตรีมันคือความน่าตื่นเต้นและท้าทายแบบไม่มีที่สิ้นสุดนะ ถึงแม้ว่าเราจะทำอัลบั้มออกมาหลายชุดแล้วผมก็ยังไม่รู้สึกเบื่อ อิ่มตัว หรือพึงพอใจกับมันแล้วเลย ผมว่าผมอยากทำได้ดีกว่านี้ อยากเรียกตัวเองว่าเป็นนักเขียนเพลง ศิลปินอาชีพ หรือเป็นโปรดิวเซอร์ให้ได้จริง ๆ

อัลบั้มไหนที่เป็นงานชิ้นโบว์แดงของคุณ

ผมว่ายังไม่มีมาสเตอร์พีซนะ แต่อาจจะพูดได้ว่าผมภูมิใจกับ Skeletal Lamping แล้วก็ Paralytic Stalks ที่สุด จริง ๆ ก็ชอบอัลบั้มล่าสุด Innocence Reaches เหมือนกันนะ เวลาที่ผมทำงานพวกนี้มามันไม่มากพอที่ผมจะมานั่งคิดว่าอันไหนเป็นงานชิ้นท้อป ๆ ของผมได้

ใน Innocence Reaches พูดถึงเรื่องอะไร

หลาย ๆ เพลงพูดถึงความสัมพันธ์ของผม เพลงพวกนี้ถูกเขียนในช่วงปีที่ผ่านมาที่ชีวิตผมค่อนข้างวุ่นวายระดับนึงทีเดียว ซึ่งผมพยายามจะเขียนออกมาในแบบที่ตรงไปตรงมาที่สุด พยายามจะไม่เล่าในมุมมองของผมคนเดียว หลาย ๆ งานที่ผ่านมาก็เหมือนเป็นไดอารี่ของผม การที่พยายามจะเขียนเรื่องส่วนตัวออกมาก็เพราะจะได้รู้จักการรับมือกับตัวเอง แต่มันจะมีเพลงที่พูดถึงเรื่องกว้าง ๆ เหมือนกัน อย่าง It’s Different For Girls

จากเพลง It’s Different For Girls คุณคิดยังไงกับการที่สังคมชอบหากินกับการให้ผู้หญิงเป็นวัตถุทางเพศ

ผมว่ามันแย่มากเลยนะ เราควรทำอะไรสักอย่างเพื่อเปลี่ยนแปลงค่านิยมนี้

การที่เป็นวงช่วงปลาย 90s คุณเห็นการเปลี่ยนแปลงอะไรในอุตสหกรรมดนตรี และมันมีผลกระทบกับคุณยังไง

เดี๋ยวนี้มันง่ายขึ้นมากที่จะตามดูหรือมีปฏิสัมพันธ์กับคนที่ชอบเพลงของคุณนะ ตอนผมทำเพลงแรก ๆ แล้วปล่อยอัลบั้มออกไปนี่ขายยากมาก ต้องใช้เวลา 6-7 ปีกว่าคนจะรู้ว่าเราก็มีตัวตน

มีอะไรน่าสนใจในเพลงสมัยนี้

ตอนนี้มีโปรดิวเซอร์สายอิเล็กทรอนิกเยอะมาก มีโปรเจกต์ที่ทำขึ้นจากการใช้แค่คอมพิวเตอร์หรือทำ bedroom studio ส่วนตัวผมชอบงานของ Flume, Holly Herndon แล้วก็ Chairlift

เป็นครั้งแรกที่มาเมืองไทยเลยหรือเปล่า

ใช่ พวกเราตื่นเต้นมากครับ ผมชอบอาหารไทยมาก นี่รอไม่ไหวที่จะได้ลองกินแทบทุกอย่างแล้วเนี่ย

เคยฟังเพลงไทยไหม

ไม่ค่อยได้ฟังเพลงร่วมสมัยครับ ส่วนใหญ่เป็นงานคอมไพล์อัลบั้มเก่า ๆ ยุค 60s ผมชอบมากครับ

คาดหวังอะไรกับโชว์ครั้งนี้

ไม่รู้เลยครับ แต่บอกเลยว่าตื่นเต้นมากที่จะได้ไปแสดง อยากจะไปพบปะผู้คน แล้วก็อยากไปเที่ยวเมืองไทยเร็ว ๆ นี้แล้วด้วย

อย่าพลาดจริง ๆ กับโชว์ของพวกเขา อังคารที่ 9 สิงหาคมนี้ ที่ Live RCA บัตรราคา 1,200 บาท จับจองบัตรกันได้ที่นี่ https://www.ticketmelon.com/event/of-montreal แล้วเจอกัน!

ขอขอบคุณ Have You Heard?

• Twitter
• Line