MV ‘Love in My Pocket’ เวอร์ชันล่าสุดของ Rich Brian ได้ Jae วง Day6 ร่วมแสดง
หลังจากที่แฟน ๆ ทั้งขำ ทั้งสงสาร และเซอร์ไพรส์กับแนวเพลงที่เปลี่ยนไปของ Rich Brian เมื่อเขาปล่อยมิวสิกวิดิโอซิงเกิ้ลล่าสุด Love in My Pocket ออกมาในเวอร์ชัน ‘ยังไม่เสร็จ’ ที่เจ้าตัวบอกว่างบหมด เลยมีแต่ตัวเขากับ green screen ในโปรดักชันทุนต่ำ ล่าสุดเขาก็ปล่อยเวอร์ชันเต็มออกมาแล้ว พร้อม visual effect สุดกวน และได้ Jae Park จากวง Day6 มาร่วมแสดง สร้างเสียงฮือฮาให้แฟน K-pop และแฟน 88 Rising ม้าก!
Love in My Pocket
เพลงนี้เกี่ยวกับความรู้สึกดีสุด ๆ ที่คนฟังอาจจะคิดว่ามันเป็นเพลงโรแมนติก แต่จริง ๆ แล้วไม่ใช่ มันเกี่ยวกับผมมีความสุขกับอะไรหลาย ๆ อย่างมากกว่า
แล้วเพลงนี้ผมตื่นเต้นมาก เพราะการปล่อยวิดิโอออกไปเป็นแค่ผมกับ green screen แบบนั้น แล้วก็ได้เห็นแฟน ๆ มีปฏิกิริยากับวิดิโอได้น่าสนใจมาก ๆ
ผลงานต่อ ๆ ไปจะออกมาในทิศทางไหน
ที่บอกได้ก็คือผมทำเพลงออกมาเยอะมากๆครับรอติดตามในปีนี้ได้เลยเพราะว่ามีเวลาเหลือเฟือกับตัวเองการกักตัวทำให้มีเวลาทำเพลงเยอะมากแล้วจริงๆมันคือสิ่งปกติที่ผมทำในเวลาว่างอยู่แล้ว
ผลงานของคนเอเชียเริ่มเป็นที่สนใจมากขึ้น กับบางวงแทบไม่ได้ร้องเป็นภาษาอังกฤษด้วยซ้ำ แต่ก็ยังมีแฟนตะวันตกที่ชอบฟัง คุณคิดว่าปัจจัยอะไรที่จะทำให้เพลงของศิลปินเอเชียนเป็นที่รู้จักได้มากขึ้น
สำหรับผมผมแค่ทำสิ่งที่ผมคิดว่าดีครับ แต่ขณะเดียวกันก็ลองเปิดรับด้วยว่าอะไรที่คนอื่น ๆ คิดว่าเจ๋งด้วยก็ดี แต่สำหรับผมเองผมพยายามจะทำตามสิ่งที่ตัวเองเชื่อมากกว่า แล้วก็จะไม่คิดมากว่ามันควรจะออกมาเป็นยังไง สุดท้ายแล้วสิ่งที่ผมเลือกจะทำมักจะกลายเป็นงานที่คนฟังชอบครับ
ความท้าทายในการเป็นศิลปินของ Rich Brian
ความรู้สึกของการที่ได้มาอยู่ในจุดสนใจของทุกคน มันมีแรงกดดันมหาศาลครับ มีหลายคนที่อยากทำเพลงขึ้นมาเฉย ๆ แล้วจู่ ๆ เขาก็เป็นส่วนนึงของอุตสาหกรรมดนตรีที่มีคนจับจ้อง มันมีความกลัวจากความคาดหวังของคนอื่น วิธีที่ข้ามไปได้คือสุดท้ายแล้วคุณก็จะมานั่งถามตัวเองว่า ‘คุณมาอยู่ตรงนี้เพื่ออะไร’ ส่วนตัวผมแค่อยากทำเพลงออกมาเยอะ ๆ ทำอะไรก็ได้ที่ผมอยากทำ แต่ตอนนี้ผมผ่านมันไปได้แล้ว รู้สึกว่าสามารถเป็นตัวเองได้เต็มที่ ผมลองมองความสัมพันธ์ระหว่างผมกับแฟนเพลง มันดีที่เราดูเป็นเหมือนกลุ่มเพื่อนมากกว่า ซึ่งนั่นสำคัญมาก
ช่วงกักตัวได้ค้นพบอะไรเกี่ยวกับตัวเองบ้างไหม
แน่นอน ผมว่ามันเป็นช่วงเวลาที่สำคัญมากกับผม และคนอื่น ๆ ทั่วโลกที่ได้ใช้เวลากับตัวเองมากขึ้น เพราะเหมือนต้องตัดขาดจากโลกภายนอก ทำให้หลาย ๆ คนต้องก้าวผ่าน anxiety ในช่วงนี้ให้ได้ ระหว่างนั้นหลายคนก็ได้ตระหนักว่ากฎเกณฑ์บางอย่างของสังคมมันไม่ได้สำคัญกับชีวิตขนาดนั้นด้วย
ผู้คนก็ได้หาวิถีทางใหม่ ๆ ในการใช้ชีวิต รวมถึงได้ค้นพบอะไรใหม่ ๆ ในตัวเองด้วย อย่างผมเนี่ยก็เจออะไรหลายอย่างมากก็ต้องปรับตัวเองพอสมควร แต่มันก็ทำให้ผมคิดว่า การอยู่กับตัวเองลำพังมันก็โอเคเหมือนกัน
สิ่งที่จะทำอย่างแรกหลัง covid-19 หายไป
ผมจะไปหาครอบครัวครับ ช่วง covid-19 นี่ผมไม่ได้เจอพวกเขาเลย แต่ก็ FaceTime กันบ่อย ๆ แต่ผมอยากเจอพวกเขาแบบใกล้ ๆ มากกว่า แต่ก็ต้องยอมกักตัวเพื่อที่จะให้สถานการณ์คลี่คลายได้เร็วขึ้นครับ
ถ้าไม่ได้เป็นศิลปินจะทำอะไร
ผมอาจจะเป็นผู้กำกับหนัง ไม่ก็เชฟครับ
ฝากอะไรถึงแฟน ๆ
ผมคิดถึงกรุงเทพ ฯ มากยังจำได้เลยว่าโชว์ครั้งนั้นโคตรสนุก ขอบคุณมาก ๆ ที่สนับสนุนกันตลอด
อ่านต่อ
88rising : เมื่อ Fungjai Crew ได้สัมผัสประสบการณ์ฮิปฮอปเอเชียนเดือดทะลุพิกัด