Mitsume อินดี้ป็อปคุณภาพจากญี่ปุ่น กับการมาประเทศไทยครั้งแรก
- Writer: Peerapong Kaewthae
- Photographer: Chavit Mayot
ถ้าเป็นเมื่อก่อนนี้ การคิดว่าจะได้ดู Mitsume เล่นคอนเสิร์ตในบ้านเราคงจะเป็นสิ่งที่อยู่เหนือจินตนาการมาก ด้วยแนวดนตรีที่แตกต่างอย่างมีเอกลักษณ์และการออกแบบดนตรีที่ซับซ้อนมีเสน่ห์ แต่คนฟังหลายคนถูกขัดขวางด้วยกำแพงของภาษาซึ่งอาจเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้คนไทยไม่ค่อยรู้จักพวกเขา แต่วันนี้มันก็เกิดขึ้นจริงแล้วเมื่อเขาตัดสินใจเดินทางมาเปิดคอนเสิร์ตครั้งแรกถึงประเทศไทย Fungjaizine ยินดีมาก ๆ (กรี๊ด) ที่จะได้พูดคุยกับสี่หนุ่มหน้ามนก่อนพวกเขาจะขึ้นเล่นเป็นวงปิดในงาน POW! Fest #3 ของ Seen Scene Space การมาไทยครั้งแรกของเขาจะเป็นยังไงบ้าง ลองมานั่งคุยกับพวกเขากัน
สมาชิก
Moto Kawabe — ร้องนำ, กีตาร์
Masao Otake — กีตาร์
Nakayaan — เบส
Yojiro Suda — กลอง
นี่เป็นครั้งแรกที่ Mitsume มาเล่นที่ไทย รู้สึกยังไงกับประเทศไทย
Moto: ก็ดีครับ ตอนนี้ที่ญี่ปุ่นหิมะตกหนักมาก พอได้มาที่เมืองไทยก็เหมือนเปลี่ยนบรรยากาศ เปลี่ยนอารมณ์ไปด้วยครับ
ได้ลองอาหารไทยหรือยัง ติดใจเมนูไหนบ้าง
Moto: ผัดไทครับ ต้มยำกุ้งก็ลองแล้วอร่อยดี
Yojiro: แล้วก็ส้มตำ (ยิ้ม)
Moto: อาหารค่อนข้างแตกต่างกับที่ญี่ปุ่นเพราะรสชาติเผ็ด และอาหารไทยใช้สมุนไพรในการประกอบอาหารเยอะด้วย
Mitsume แปลว่าอะไร
Moto: ความหมายของมันจริง ๆ แปลว่า ‘สามตา’ แต่วงมีสี่คนก็อาจจะไม่ได้มีอะไรเกี่ยวกับสามตา แค่อยากให้วงมีชื่อที่โดดเด่นน่ะครับ
มีที่มาเกี่ยวกับการ์ตูน ‘เจ้าหนูสามตาอภินิหาร’ 三つ目がとおる (Mitsume ga Tōru) รึเปล่า
Moto: โอ้ ไม่เกี่ยวครับ (ยิ้ม) อีกเรื่องคือ เราอยากให้ภาพลักษณ์ของวงออกไปในมุมที่ไม่ได้มองเห็นชัดเจนว่ามีอยู่จริงรึเปล่าอะไรแบบนี้ อยากให้วงออกมาเป็นแบบนั้น ค่อนข้างเข้าใจยากนิดนึงครับ (ยิ้ม)
อย่างนี้สมาชิกในวงเชื่อเรื่องลี้ลับหรือเรื่องผีรึเปล่า
Moto: ผมคิดว่าสิ่งที่มองไม่เห็นว่ามีอยู่จริงเนี่ยมันเป็นสิ่งที่มีเสน่ห์ อย่างยูนิคอร์นน่ะครับ
วงได้ไปเล่นคอนเสิร์ตมาแล้วหลาย ๆ ประเทศในโลก การเล่นดนตรีในต่างแดนกับที่ญี่ปุ่นแตกต่างกันไหม
Yojiro: เวลาเราไปเล่นที่ต่างประเทศ การแสดงออกถึงความสนุกของแฟนคลับแต่ละประเทศก็จะแตกต่างกันไป ไม่เหมือนกันเลย ที่ญี่ปุ่นแฟน ๆ จะเรียบร้อยไม่ได้กระโดดเย้ว ๆ แต่พอไปต่างประเทศแฟน ๆ ก็จะคึกคักกันมาก แต่ไม่มีอันไหนดีกว่ากันนะครับ พวกเราก็รู้สึกสนุกไปกับการเห็นท่าทางของแฟน ๆ ด้วย
กระแสตอบรับจากแฟนเพลงจากตะวันตกเป็นยังไง
Yojiro: ตอนที่ไปเล่นอเมริกาแม้จะเป็น live house เล็ก ๆ แต่กระแสตอบรับหรือความรู้สึกของแฟน ๆ ที่มีต่อวงก็ค่อนข้างดี เวลาเราโซโล่กีตาร์จบแฟน ๆ ก็ชอบใจกันมาก ถ้าเป็นไปได้ก็อยากไปทัวร์ยุโรปเหมือนกันครับ
แล้วในเอเชียประทับใจคอนเสิร์ตไหนที่สุด
Masao: คงจะเป็นที่จีนครับ เพราะเราต้องไปเล่น 8 ที่ด้วยกัน
ศิลปินญี่ปุ่นสนใจตลาดหรือแฟนเพลงในไทยมากน้อยแค่ไหน
Yojiro: ส่วนตัววงเราก็เพิ่งมาไทยครั้งแรก เราก็ยังไม่รู้ว่ากระแสของคนไทยที่ฟังเพลงญี่ปุ่นมีมากน้อยแค่ไหน หรือสไตล์ฟังเพลงของคนไทยเป็นยังไง เราก็อยากใช้โอกาสนี้มาลองดูไลฟ์หรือมาคุยกับคนเยอะ ๆ ว่าคนไทยฟังเพลงยังไงกันบ้าง แต่เราก็สนใจแฟนเพลงไทยอยู่เหมือนกันครับ
สมัยนี้ศิลปินไทยหรือศิลปินต่างชาติจะไปเติบโตในซีนอินดี้ของญี่ปุ่นง่ายขึ้นมั้ย
Yojiro: อย่าง Yellow Fang ผมก็ไม่รู้ว่าดังขนาดไหน แต่เขาก็ก้าวเข้ามาในวงการอินดี้ญี่ปุ่นได้แล้ว
Moto: ก่อนหน้านี้ประมาณ 5 ปี ญี่ปุ่นก็เริ่มมีกระแสเพลงที่มาจากแดนไกลเข้ามาพอสมควร เพลงไทยในช่วงยุค 70s ก็เข้ามาในญี่ปุ่นช่วงนั้นด้วย สำหรับผมมองว่าเพลงไทยยุคนั้นค่อนข้างมีจุดเด่นไม่เหมือนเพลงทั่วไป มีกลิ่นอายของเพลงไทยอยู่
พอจะยกตัวอย่างได้ไหม
Yojiro: ผมอาจจะไม่มีชื่อเพลงให้นะ แต่มีดีเจคนหนึ่งที่ไปรวบรวมเพลงไทยมาเปิด เรียกว่า Thai funk ถ้าเสิร์ชด้วยคีย์เวิร์ดภาษาญี่ปุ่นก็จะขึ้นมาเลย (เอามือถือให้ดูเป็นลิงก์ YouTube ของแม่ฉวีวรรณ ดำเนิน) อย่างปีที่แล้วผมก็เจอดีเจชื่อ Soi48 ก็เอาเพลงไทยอีสานหรือหมอลำแนว ๆ นี้มาเปิด (FJZ: ประทับใจมากครับ) (หัวเราะ) ผมยังซื้อหนังสือของเขาไว้ด้วยชื่อ ‘Trip to Isan’ ดีมากเลยครับ
มีศิลปินไทยคนไหนที่ดังในซีนอินดี้ญี่ปุ่นอีกไหม
Nakayann: FOLK9 ที่เล่นวันนี้ครับ เพื่อนคนญี่ปุ่นผมก็ชอบมาก
ถ้าต้องแนะนำเพลงของ Mitsume ให้คนที่ยังไม่รู้จักฟัง จะเลือกเพลงอะไร
Yojiro: เพลงใหม่ของเราครับ (หัวเราะ) Esper
แล้วอย่างซิงเกิ้ลใหม่ที่เพิ่งปล่อยมาสองเพลงอย่าง Esper กับ Blue Moon (青い月) นี่มีคอนเซ็ปต์หรือไอเดียมาจากไหน
Moto: เราแค่อยากให้คนฟังเห็นว่าวงของเราเป็นวงสไตล์ไหนน่ะครับ
คิดว่าวงเติบโตขึ้นในด้านแนวดนตรียังไงบ้าง
Nakayann: (ทำท่าคิด) อธิบายไม่ถูก เหมือนเราเอาเพลงเก่า ๆ มาเล่นอีกครั้งหนึ่ง เราก็รู้สึกว่าเราโตขึ้นนะ (หัวเราะ)
มีศิลปินญี่ปุ่นหลายวงทำเพลงภาษาอังกฤษกัน Mitsume อยากลองทำดูบ้างไหม
Moto: เนื้อเพลงภาษาอังกฤษก็ดีเหมือนนะครับ แต่วงเราอาจจะยังไปไม่ถึงตรงนั้น (ยิ้ม)
ล่าสุดวงเพิ่งจัดงาน Wakuwaku Mitsume Festival อยากให้เล่าให้ฟังหน่อยว่าคืองานอะไร
Yojiro: งานนี้เราจัดมาเป็นปีที่ 3 แล้ว มันเป็นงานที่พวกเราทั้งสี่คนได้ปล่อยไอเดียเต็มที่ในการเลือกทีมงาน เลือกร้าน และเราได้เลือกศิลปินที่เราชอบให้มาเล่นในงานด้วย เหมือนเป็นอีกงานหนึ่งที่เราสนุกมาก และเราได้เป็นตัวของตัวเองกันเต็มที่ (FJZ: เหมือนเป็นโปรโมเตอร์ทำคอนเสิร์ตเองหรอ) ใช่ครับ
อย่างนี้ศิลปินไทยหรือเพลงไทยจะมีโอกาสได้ไปเล่นในงานของคุณไหม หรือจัดเป็นธีมเพลงไทย
Yojiro: นอกจาก Wakuwaku ของเราแล้วยังมีงานชื่อ ‘PORT’ ซึ่งจัดหลายที่ทั้งในโตเกียวและโอซาก้า ปีที่ผ่านมาเขาได้เชิญวง Parasol จากเกาหลีใต้มาเล่นด้วย ผมชอบเขามาก ผมคิดว่าโอกาสครั้ง ๆ ต่อไปถ้าได้รู้จักวงไทยก็อยากชวนมาทำเทศกาลดนตรีแบบนี้ด้วยกันอีก
จะได้ฟังซิงเกิ้ลใหม่หรืออัลบั้มใหม่ของพวกคุณภายในปีนี้ไหม
Moto: เราว่าจะทำซิงเกิ้ลใหม่อยู่ครับ
ฝากถึงแฟนเพลงชาวไทย
Moto: อาจจะใช้เวลาถึง 6-7 ชั่วโมงกว่าจะเดินทางจากญี่ปุ่นมาถึงไทยได้ มันค่อนข้างไกลกันเนอะ แต่เราอยู่ในเอเชียเหมือนกัน ด้วยความรู้สึกแล้วก็เหมือนเราอยู่ใกล้กันครับ (ยิ้ม)