KLLO ลูกพี่ลูกน้องจากเมลเบิร์นที่ทำเพลงอิเล็กทรอนิก r&b สุดเก๋จนทั่วโลกพูดถึง
- Writer: Montipa Virojpan
- Photographer: KLLO, Weedon
KLLO อาจจะไม่ได้เป็นวง headliner ตามเทศกาลดนตรีอิเล็กทรอนิกใหญ่ ๆ แต่ในฐานะศิลปินดาวรุ่ง ซีนอันเดอร์กราวด์ต่างให้ความสนใจอิเล็กทรอนิก r&b ดูโอ้คู่นี้ จากความสำเร็จในซิงเกิ้ล Walls to Build ก็ทำให้พวกเขาได้ไปโชว์ในคลับซีนทั่วโลกและพูดถึงจากสื่อชื่อดังมากมายทั้ง Elle หรือ Vice
ในวันเสาร์ที่จะถึงนี้ Simon Lam และ Chloe Kaul จะมาเจอกับพวกเราที่ Beat and Beyond by Asahi Super Dry ซึ่ง HUH? เจ้าเดียวกับ Have You Heard? จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 5 กันแล้ว ตอนนี้ก็มาพูดคุยกับสองลูกพี่ลูกน้องกันก่อนเผื่อจะได้รู้ตัวตนของพวกเขามากขึ้น
ซีนดนตรีอิเล็กทรอนิกในเมลเบิร์นเป็นที่นิยมไหม
โคลอี้: มีเพลงอิเล็กทรอนิกเจ๋ง ๆ เกิดขึ้นในออสเตรเลียเยอะมากนะคะ ถึงแม้ว่ามันจะเป็นซีนที่ค่อนข้างเล็กเมื่อเทียบกับซีนดนตรีร็อกหรือโฟล์ก แต่นั่นน่าจะทำให้เพลงที่มาจากที่นี่โดดเด่นและไม่จำเจจนเกินไป และแน่นอน ถ้าพูดถึงเมืองที่มีการแสดงดนตรีอิเล็กทรอนิกที่ยอดเยี่ยมที่สุดในออสเตรเลียก็ต้องเป็นที่เมืองของเราเนี่ยแหละ (ยิ้ม)
รู้สึกว่าการเป็นที่รู้จักจากผู้ฟังใหม่ ๆ เป็นเรื่องยากไหมเพราะตอนนี้มีศิลปินเกิดขึ้นใหม่เต็มไปหมดเลย
โคลอี้: แน่นอนค่ะว่ามันเป็นเรื่องยาก เพราะเดี๋ยวนี้ความอยู่รอดของวงดนตรีขึ้นอยู่กับการเป็นที่รู้จักบนอินเทอร์เน็ต มีผลมากเลยล่ะค่ะ เราคิดว่ามันแค่จะต้องใช้เวลามากขึ้นจากแต่ก่อนกว่าจะเป็นที่รู้จัก แต่ถ้าวงไหนที่สามารถอยู่ในซีนได้ยาว ๆ แล้วยังคงความเป็นตัวเองอยู่ได้ พวกเขาก็จะไปถึงจุดนั้นเองค่ะ
อยากเปลี่ยนอะไรในซีนดนตรีที่เมลเบิร์นบ้างไหม
โคลอี้: อยากให้มีการร่วมมือระหว่างศิลปินเกิดขึ้นเยอะขึ้นค่ะ มันก็มีทั้งข้อดีและข้อเสียนะคะแต่มันจะช่วยให้ดนตรีของเรามีอัตลักษณ์ขึ้นได้แน่นอน ซึ่งข้อเสียของมันไม่ได้มากมายเมื่อเทียบกับข้อดีที่จะได้เพราะมันเป็นการสนับสนุนซึ่งกันและกันที่จะทำให้ซีนเติบโต เราเชื่อว่าควรจะมีสังคมดนตรีที่เหนียวแน่นมากกว่านี้ค่ะ
อะไรคือสิ่งที่ยากที่สุดในการทำให้เพลงของคุณโดดเด่นกว่าวงอิเล็กทรอนิกวงอื่น
โคลอี้: น่าจะเป็นการทำยังไงให้เพลงสดใหม่อยู่เสมอ แต่ขณะเดียวกันก็ต้องทำให้เพลงใหม่ไม่หนีจากงานเก่าของเราจนเกินไป
อะไรคุณตกหลุมรักในเพลง r&b
โคลอี้: เสียงร้องที่อัดแน่นไปด้วยอารมณ์ มีความกลมกล่อมในเพลงที่ซับซ้อน และการแอดลิบที่มีสีสันค่ะ
อยากแนะนำเพลงไหนของ KLLO ให้คนที่ยังไม่เคยฟังได้ลอง
โคลอี้: เวลาให้เลือกเพลงที่ชอบที่สุดนี่เลือกไม่เคยได้เลยค่ะ เพราะแต่ละเพลงมันมีความเฉพาะตัวของมัน แทบจะไม่ต้องเลือกเลยก็ได้เพราะชอบหมด แต่ถ้าจะต้องเลือกจริง ๆ คงเป็น Making Distractions, Potential แล้วก็ Last Yearn ค่ะ
ถ้าคุณไม่ใช่นักดนตรี คุณอยากจะเป็นอะไร
โคลอี้: นักแสดงค่ะ
ไซมอน: นักพัฒนาเว็บไซต์ครับ
คุณสองคนเป็นลูกพี่ลูกน้องกันแล้วเคยแกล้งกันบ้างหรือเปล่า
ไซมอน: ไม่เคยนะ! พวกเราพยายามจะทำตัวดี ๆ ไม่ให้พ่อแม่เป็นห่วง.. แต่ใครจะไปรู้ล่ะ
แล้วทะเลาะกันบ้างไหม มีคนบอกว่าการทำงานร่วมกับคนในครอบครัวมักจะเกิดการผิดใจได้ง่ายเพราะความที่สนิทกันเกินไป
ไซมอน: โห เราเถียงกันบ่อยมาก! เราสนิทกันแล้วก็ใช้เวลาด้วยกันบ่อย ดังนั้นแล้วมันเลยเป็นธรรมดาที่จะต้องทะเลาะกันบ้างครับ โดยเฉพาะกับตอนที่เราเครียด แต่มันก็ไม่ได้ร้ายแรงอะไรนะ แล้วความที่เป็นครอบครัวก็เลยทำให้หายโกรธกันเร็วด้วยครับ
นี่เป็นครั้งแรกที่พวกคุณมาแสดงที่กรุงเทพ ฯ เคยได้ยินอะไรเกี่ยวกับคลับซีนที่นี่บ้างไหม คิดว่ามันจะต่างกับที่เมลเบิร์นยังไงบ้าง
ไซมอน: เราไม่เคยมาประเทศไทยเลยครับ ก็เลยไม่รู้ว่าจะคาดหวังอะไร ตั้งใจว่าจะไปตามดูซีนดนตรีเหมือนกัน แล้วก็จะตะลุยกินอาหารไทยครับ เราชอบอาหารไทยมาก ซึ่งเราก็ตื่นเต้นมากนะ เราชอบเวลาไปเล่นที่ต่างประเทศเพราะหลาย ๆ ครั้งมันก็เทียบประสบการณ์กันไม่ได้ แต่ละที่มันก็สนุกในแบบของมันเอง
อะไรคือสิ่งที่นึกถึงเป็นอย่างแรกเมื่อพูดถึงประเทศไทย และถ้าเกิดว่าเราอยากให้คุณเขียนเพลงถึงเรื่องนั้นด้วย
ไซมอน: ชายหาดสวย ๆ ความรุ่มรวยทางวัฒนธรรมที่มีมายาวนาน แล้วก็อาหาร… ถ้าเราต้องเขียนเพลงจะเขียนเกี่ยวกับอาหารเยอะ ๆ เลย
ปกติเวลาเขียนเพลงคิดว่าเรื่องไหนที่ถนัดที่สุด
ไซมอน: เราเขียนเรื่อง homesick บ่อยมากครับ จริง ๆ เราท่องเที่ยวบ่อยเพราะเราชอบมันนะ แต่มันก็มีหลาย ๆ ครั้งที่จู่ ๆ เราคิดถึงคนที่บ้านระหว่างที่กำลังทัวร์ ซึ่งความคิดถึงนี้มันก็เป็นแรงบันดาลใจให้เราเขียนถึงภาพหรือความรู้สึกของบ้านที่อยู่ในหัวเรา ณ ตอนนั้นอยู่บ่อย ๆ
ฝากอะไรถึงแฟน ๆ หน่อย
ไซมอน: รอไม่ไหวแล้วที่จะได้พบกับทุกคนครับ พอเราเล่นเสร็จแล้วเข้ามาทักทายกันได้นะ แล้วก็เรามีเวลาเที่ยวแค่คืนเดียว ใครมีลายแทงเด็ดที่ไหนให้เราลองไปในกรุงเทพ ฯ ก็แนะนำกันได้เลยครับ