เรากำลังอยู่กับ Greg Gonzalez พ่อหนุ่มที่ทำเพลงได้ละมุนหวานหูจนอยากนอนฟังก่อนนอนทุกคืนอย่าง Cigarette After Sex เขาจะมาตอบคำถามที่เราสงสัยก่อนจะเล่นเพลงดังจากทั้ง EP I และอัลบั้มเต็มของเขาให้เราได้ฟังกันคืนนี้ที่ Singha Light Live Series 2.3 – Cigarette After Sex

ทำไมถึงทำแต่เพลงละมุน ๆ

ผมว่ามันออกมาจากบุคลิกของผมนะ ผมเติบโตมาสิ่งแวดล้อมที่ผ่อนคลาย หรือแม้แต่ตัวผมเองก็เป็นคนสบาย ๆ แล้วยิ่งผมต้องทำเพลงของตัวเองก็รู้สึกว่าลึก ๆ แล้วผมมีนิสัยแบบนี้ ก็อยากจะถ่ายทอดมันออกมาตามสัญชาติญาณของผม

คุณโตมาในเท็กซัสใช่ไหม

ใช่ครับ มันดีนะ ผมเริ่มเขียนเพลงตั้งแต่อายุ 10 ขวบแล้วก็ได้ทำ garage band ตั้งแต่ตอนนั้น

บรรยากาศในที่ที่คุณเติบโตมาให้แรงบันดาลใจต่อการงานของคุณยังไงบ้าง

เป็นที่ที่เต็มไปด้วยทะเลทราย อย่างตอนกลางคืนผมเดินไปไหนมาไหนก็จะใส่เฮดโฟนฟังเพลงไปด้วยแล้วก็สังเกตว่า มันเป็นเมืองที่ลึกลับดีแฮะ แล้วก็มีป่าเยอะมาก มันทำให้ผมรู้สึกถึงความสงบ มันก็ส่งผลให้เพลงของผมเป็นประมาณนั้นด้วย

หลายเพลงของคุณขึ้นชื่อว่าเป็นอะไรที่โรแมนติกมาก แต่ทำไมอย่างเพลง I’m a Firefighter ถึงดาร์กขนาดนั้น

มันเป็นเพลงที่เขียนยากเหมือนกันนะ มันเขียนออกมาจากความรู้สึกที่ผมมีต่อคนคนนึง เกี่ยวกับความสัมพันธ์ที่มีมาอย่างยาวนาน แล้วรู้สึกว่าสักวันจะต้องมาถึงจุดจบ แล้วมันก็จบลงจริง ๆ คุณเข้าใจความรู้สึกของการที่รักใครสักคนมาก ๆ แล้วจู่ ๆ ก็ไม่สามารถกลับมารักกันได้อีกแล้วไหม ท่อนแรกของเพลงมันเหมือนคุณอยากจุดไฟเผาบ้านคนรักของคุณให้ตาย ๆ ไป แต่ผมคงไม่ได้ทำแบบนั้นกับเธอจริง ๆ

เป็นความรู้สึกที่รุนแรงมาก แต่ทำดนตรีออกมาเศร้ามากเลย

ครับ ตอนผมเขียนถึงเรื่องนี้อารมณ์มันก็รุนแรงประมาณนึงเลย ก็เลยอยากให้ดนตรีมันละมุนละม่อมเพื่อกลบความรู้สึกตรงนั้น

คุณคิดว่าตัวเองเป็นพวก hopeless romantic ไหม

คงไม่นะครับ ผมอาจจะเป็นคนโรแมนติกแต่ไม่ได้เชื่อในรักแท้ ผมรู้สึกว่าการได้ตกหลุมรักมันดีแหละ มันทำให้คุณรู้สึกมีชีวิตชีวา แต่ผมก็รู้ว่าวันนึงมันต้องจบลงซึ่งเป็นเรื่องธรรมดาของชีวิต

คิดจะลองเขียนอะไรที่ไม่เกี่ยวกับความสัมพันธ์ดูไหม

ผมคิดอยู่ตลอดครับ ตั้งแต่เด็กก็เขียนเพลงมาเป็นล้านที่ไม่ได้เกี่ยวกับความรัก แต่ตอนนี้ผมอยากทำให้มันเป็นบทกวีโรแมนติก เหมือนถ้าคุณอยากอ่านกวีเกี่ยวกับความรัก คุณก็ไปหาหนังสือเรื่องนั้นเรื่องนี้อ่าน ผมก็อยากให้เพลงของผมเป็นแบบหนังสือพวกนั้นเหมือนกัน ถ้าใครอยากฟังเพลงเกี่ยวกับทั้งความรักหรือการอกหักเพื่อซึมซับอารมณ์เหล่านั้นให้ได้มากยิ่งขึ้นก็นึกถึง Cigarette After Sex นะครับ (ยิ้ม)

เพลงบางเพลงของคุณถูกอัดตรงทางเดินขึ้นบันได เคยนึกถึงสถานที่แปลก ๆ ที่อื่นสำหรับอัดเพลงอีกบ้างไหม

แน่นอน ผมอยากทดลองอัดเพลงในที่แปลก ๆ ที่ไม่ใช่สตูดิโอ คือรู้สึกว่าอยากอัดเพลงตรงไหนขึ้นมาก็อัดมันตรงนั้นเลย ที่แรกคือทางขึ้นบันได ซึ่งมันเป็นความบังเอิญที่ให้ผลลัพธ์ที่ผมประทับใจมาก แล้วมันก็มีที่แปลก ๆ อีกหลายที่เลยในบรูคลิน อย่างที่นึงเป็นห้องเปล่า เราก็ทำให้มันกลายเป็นสตูดิโอ ตอนนั้นเป็นหน้าหนาวด้วย เราก็เลยได้เห็นข้างนอกว่าหิมะกำลังตก มันทำให้ผมซึมซับบรรยากาศตรงนั้นมาบรรเลงได้ในเพลง หรืออย่างที่เยอรมนีเราก็ไปอัดในรถไฟ ที่สเปนเราก็อัดในบ้านริมทะเล มันเป็นอะไรที่ท้าทายสำหรับเราเหมือนกันที่ได้ไปเจอสถานที่พวกนั้นและทำเพลงกันในนั้น แล้วมันก็มีความหลากหลายในซาวด์ เราจะใช้วิธีอัดเครื่องดนตรีพร้อมกันแต่มาแก้อัดร้องทีหลัง แต่มันดีกว่าในสตูดิโอเยอะเลย มันผ่อนคลาย สงบ เป็นบรรยากาศที่เหมาะจะถ่ายทอดความคิดของเราออกมา

ดนตรีในอัลบั้มเต็มมีความแตกต่างจาก EP ไหม

ไม่ค่อยต่างกันครับ คือผมตั้งใจน่ะ ผมคิดว่าวงอย่าง Cocteau Twins เขาจะมีดนตรีเป็นมู้ดเดียวหมดเลย เหมือนเขาอยากไปให้สุดในแนวทางนั้น ซึ่งมันก็ดึงเอกลักษณ์ของวงนั้นออกมาได้ดี สำหรับผมเองก็อยากลองไปให้สุดในซาวด์แบบของตัวเองเหมือนกัน

แล้วอัลบั้มต่อไปจะยังเป็นแนว ๆ นี้อยู่หรือเปล่า

ก็น่าจะนะครับ แต่อาจจะให้มันฉีกออกไปนิดหน่อย อยากลองทำอารมณ์เพลงที่เป็นจุดเด่นตรงนี้ให้มันยังคงอยู่ต่อไปเรื่อย ๆ

ทำไมถึงใช้ภาพขาวดำกับเพลงตลอด

ผมรู้สึกว่ามันลึกลับดี เผลอ ๆ มันให้อารมณ์เหมือนความฝันด้วยซ้ำที่บางคนมักจะเป็นภาพขาวดำ ยิ่งทำให้คอนเซปต์ของเพลงดูโรแมนติกสำหรับผม แล้วการที่เห็นแค่สองสีมันก็ทำให้ภาพจำของวงเราชัดเจนว่า มันต้องเป็นฟีลประมาณนี้แหละ

ในบรูคลิน ยากไหมที่จะปล่อยงานด้วยตัวเองและเป็นที่รู้จักโดยไม่ต้องพึ่งความช่วยเหลือจากใคร

มันก็ไม่ยากไม่ง่ายสำหรับเรานะ จริง ๆ ค่อนข้างใช้เวลาประมาณนึงเลยล่ะ ผมเล่นดนตรีมาตั้งแต่สิบขวบแล้วก็พยายามหาคนให้มาลองฟังงานของผม แต่มันมาโชคดีตรงที่ตอนนี้มี YouTube หรือสตรีมมิ่งต่าง ๆ แล้วก็มีคนมาบังเอิญฟัง แล้วเกิดชอบ จนมันแพร่ไปไกล เราไม่มีทางรู้หรอกว่าจะเป็นยังไง เราแค่ทำงานของเราไป แล้วพอจังหวะมันมามันก็มาเอง

ตอนปล่อยเพลงแรกมาจนถึงตอนนี้ ทัศนคติในการทำเพลงของคุณยังเหมือนเดิมอยู่หรือเปล่า

ในแง่การทำงานผมว่ามันก็มีเปลี่ยนแปลงบ้างแหละ ปรัชญาการทำงานของผมมันปรับไปในทุก ๆ ปีจากสิ่งที่เจอมา การเขียนเพลง กีตาร์ กลอง การหาสมดุลของสิ่งเหล่านั้นก็ต้องมีการปรับสไตล์เพลงไปเรื่อย ๆ หรือการอัดเพลงแบบไหนที่ดีที่สุดสำหรับผม หรือแม้แต่การถ่ายทอดเรื่องราวของเพลงช่วงหลัง ๆ มานี้ก็ใส่ตัวตนของผมลงไปไม่น้อย มันเหมือนเป็นภาพถ่ายที่จับภาพเราในแต่ละช่วงวัย

อ่านเจอบทสัมภาษณ์นึงบอกว่าคุณชอบฟัง Babymetal

ผมบังเอิญได้ฟังเพลง Gimme Chocolate!! แล้วผมรู้สึกว่าเจ๋งมาก จริง ๆ ผมโตมาในซีนเมทัล วงเขาก็ร้องเมทัล แล้วเพลงเขาดันทำออกมาดีด้วยไง เขาเคยมาไทยหรือเปล่า (FJZ: ไม่แน่ใจ ไม่น่าจะเคยนะ) เออ เอาเขามาเล่นสิ

มีวงไหนที่คนอื่นไม่คิดว่าคุณจะฟังอีกไหม

เยอะครับ พวกเพลงป๊อปเมนสตรีมเนี่ยแหละ Justin Bieber, Rihanna, Beyonce ฟังหมด คือผมก็เป็นคนเขียนเพลงป๊อปล่ะนะ แน่นอน Michael Jackson, Madonna ในยุคพวกเขาดนตรีป๊อปเป็นอะไรที่น่าตื่นเต้นมาก มันเป็นเพลงที่ฟังกี่ทีก็ติดหู ก็สนุก มันมีรูปแบบ และคอร์ดบางอย่างของมันที่ไม่ว่ายังไงออกมากี่เพลงมันก็ต้องมีเสน่ห์ ผมชื่นชมมากครับ

ถ้า Cigarette After Sex เป็นภาพยนตร์ เนื้อเรื่องจะเป็นประมาณไหน

คงเป็นหนังที่ make out กันตลอดเวลา มีฉากขับรถไปตามชายหาด สูบบุหรี่ภายใต้แสงเทียน (หัวเราะ)

ถ้าคุณกำลังมีความรัก อยากจะร้องเพลงอะไรให้คนรักของคุณฟัง

เป็นคำถามที่ดีครับ (หัวเราะ) แน่นอนว่าต้องเป็น Dreaming of You เพราะเนื้อหามันคือกำลังตกหลุมรัก เพลงบอกทุกสิ่งที่ผมอยากจะพูดตอนที่มีความรู้สึกนั้นอย่างครบถ้วน

ฝากอะไรถึงแฟน ๆ หน่อย

ขอบคุณมาก ๆ ครับที่ฟังเพลงของพวกเรา ดีใจมากที่ได้มาที่นี่และตื่นเต้นมากที่กำลังจะได้เล่นให้ทุกคนดู

• Twitter
• Line