ถอดรหัสเพลงฮิตบน Tiktok ต้องมีองค์ประกอบอะไรบ้างเพลงถึงไวรัล
- Visual Designer: Karin Lertchaiprasert
- Writer: Peerapong Kaewthae
ใครตามเทรนด์ Tiktok อันนี้ทันแล้ว หรือเพิ่ง duet กับเพื่อนไปแล้วบ้าง แตะอกแตะไหล่แล้วชูขึ้นพร้อมโยกเอว สลับข้างแล้วค่อยชูสองมือพร้อมเต้นตาม จะทำให้ขำ ๆ ก็ยังน่าเอ็นดู จะทำให้เซ็กซี่ก็เอาเรื่อง แถมท่าเต้นไม่ซับซ้อน ใคร ๆ ก็อยากเต้นตามบ้าง สามีภรรยาคู่หนึ่งที่มีหลายเชื้อชาติเป็นคนจุดกระแสนี้ขึ้นมาได้ จากการเปลี่ยนชุดประจำชาติกำเนิดของตัวเองไปเรื่อย ๆ ระหว่างเต้น (คลิปที่สอง)
ส่งให้ Jawsh 685 คนทำบีตตัวเล็ก ๆ จาก Aukland, New Zealand ดังขึ้นมาในชั่วข้ามคืนเพลง ยอดวิวของเพลงนี้พุ่งขึ้นมาแตะ 5 ล้านภายในเวลาไม่กี่วัน และมีคนเป็นล้านกำลังถ่ายตัวเองเต้นเพลงนี้ลง Tiktok ไม่ต้องจินตนาการถึงเม็ดเงินมหาศาลที่เขากำลังจะได้จาก Tiktok ด้วย แน่นอนว่าเมื่อเป็นไวรัลและเทรนด์นี้ไปไกล ต้นตอของไอเดียก็คงตกหล่นไปบ้าง เพราะทุกคนอยากออกมาครีเอตท่าเต้นเท่ ๆ กันมากกว่า แต่ยังไงก็ยังได้ฟังเพลง Laxed (Siren Beat) จนติดหูทุกคน
นี่แค่เดือน 4 ของปี 2020 แต่แอป Tiktok ก็ขึ้นแท่นแอปพลิเคชันที่คนดาวน์โหลดมากที่สุดทั่วโลกถึง 13,000 ล้านครั้ง และมี active user หรือคนที่เล่น Tiktok ทุกวันถึง 800 ล้านคน ทำให้เป็นโซเชียลที่ทรงพลังมาก ๆ และทำให้การมาถึงของ video content ยิ่งแข็งแรงขึ้นด้วย ทุกวันจะมีคอนเทนต์เป็นล้าน ๆ เกี่ยวกับการเต้น ลิปซิงก์ roleplay หรือเล่นละคร รวมไปถึง meme ทั้งหลาย นักการตลาดทั้งหลายต่างเห็น Tiktok เป็นเหมือนตู้เซฟที่ทุกคนต้องไขรหัสให้ออก แล้วจะรวยเละ
แม้แต่ในซีนดนตรี ที่นี่ก็กลายเป็นพื้นที่สงครามแห่งใหม่ของเหล่าศิลปินระดับโลก เมื่อการทำเพลงให้ไวรัลก็จะตามมาด้วยยอดวิวมหาศาล แค่ใครซักคนหยิบเพลงใดเพลงหนึ่งมาทำคอนเทนต์ได้ปัง เพลงเพลงนั้นก็จะขึ้นอันดับหนึ่งของทุกการจัดอันดับได้ทันที
ก่อน Toosie Slide ของ Drake จะถูกปล่อยออกมาและขึ้นท็อปชาร์ตบิลบอร์ดภายในเวลาอันรวดเร็ว เขาและเพื่อน ๆ อัพวีดีโอท่าเต้นง่าย ๆ เตะเท้าสามจังหวะแล้วสไลด์ตัวไปทางซ้าย เตะเท้าอีกสามครั้งแล้วสไลด์ตัวกลับมา ง่าย ๆ แค่นี้เลย พี่ป้าน้าอาคุณย่าคุณยายก็เต้นได้ และเมื่อเพลงปล่อยออกมา ทุกคนก็อยากเต้นตามแร็ปเปอร์ชื่อดังกันหมด ทำให้เป็นไวรัลอย่างรวดเร็ว และทุกคนรู้จักเพลงเขาในทันที มันกลายเป็นการตลาดแบบใหม่ที่เร็วและได้ผลที่สุดในตอนนี้
Big mood 🤣 #ToosieSlide #Drake pic.twitter.com/EdQ1Jb210s
— Island Def Jam (@islanddefjam) April 19, 2020
อย่างที่บอกว่านี่คือตลาดใหม่ วัยรุ่นมีวิธีฟังเพลงที่ไม่เหมือนคนรุ่นก่อนเลย Ed Sheeran หรือ Taylor Swift ไม่ค่อยมีตัวตนอยู่ในโซเชียลนี้เท่าไหร่ เด็กบางคนตาม Miley Cyrus บน Tiktok ในฐานะดาวติ๊กต็อก โดยที่ไม่รู้ว่าเธอทำเพลงของตัวเองด้วย พวกเขาไม่ฟังเพลงป๊อปแบบที่พวกเราฟังกันอีกแล้ว จนทำให้ชาร์ตบิลบอร์ดหรือ top หลาย ๆ ประเทศปั่นป่วน แสดงให้เห็นว่าวัฒนธรรมการฟังเพลงของโลกอาจเปลี่ยนไปแล้ว
ค่ายเพลงไม่ได้หาศิลปินที่เสียงดีหรือเล่นดนตรีเก่งอีกต่อไป พวกเขากำลังหาดาวติ๊กต๊อกดวงใหม่ที่จะทำให้เพลงทะลุชาร์ต พร้อมอัดนักการตลาดที่สามารถสอดแทรกสิ่งที่ต้องการไปพร้อมกับเพลงบนโลก Tiktok ได้ วัยรุ่นบนนั้นต้องการแค่จังหวะเท่ ๆ บีตอันอึกทึกไม่กี่คอร์ด เพื่อที่จะทำได้เอามาประกอบการเล่น meme หรือโรลเพลย์ได้น่าสนใจภายในเวลา 15 วินาที ทำให้เพลง Walk ของ Comethazine กลายเป็นไวรัลจากทั่วโลกด้วยเทรนด์ wikiHow ที่ทุกคนหยิบคำแนะนำตลก ๆ มาทำจริง ๆ แล้วหักมุมด้วยบีตพุ่ง ๆ เบสแตก ๆ โดนใจ
หนึ่งในแร็ปเปอร์ที่เพลงของเขาก็เคยกลายเป็นไวรัลในชั่วข้ามคืนให้ความเห็นว่า ชาวติ๊กต๊อกชอบอะไรที่ไม่สมบูรณ์แบบ ดูไม่ได้เป็นมืออาชีพมากเกินไป พวกเขาชอบซาวด์หรืออะไรที่บ้าน ๆ เข้าถึงง่าย ไม่ว่าฉันหรือใครก็สามารถลองทำตามดูได้เหมือนกัน
หนึ่งในองค์ประกอบที่สำคัญของเพลงที่จะไวรัลบน Tiktok คือต้องเสียงดัง ชวนกระฉับกระเฉงให้ขยับตาม และยังต้องดึงอินเนอร์นักเต้นในตัวเราออกมาได้ ไม่แปลกใจที่นักเต้นจะเต็มไปหมดเพราะมันชวนย้ำว่าใคร ๆ ก็สามารถเต้นได้ โดยเฉพาะเพลง WOAH ของ KRYPTO9095 ที่มีลูกดรอปน่าตื่นเต้น และท่าเต้นก็แค่ควงมือทวนเข็มนาฬิกาแล้วกระแทกไปในอากาศพร้อมเบสที่พุ่งใส่เราเท่านั้น แค่เราชกได้ตรงจังหวะก็ทำให้รู้สึกภูมิใจได้เล็ก ๆ หรือไฮป์ขึ้นมาได้ทันที
การดรอปจังหวะกลายเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้อีกต่อไป ในเพลงที่อยากจะไวรัลบน Tiktok เพราะมันยังเอาไปสร้างสรรค์ต่อได้อีกมากมาย ทั้งการดรอปแล้วเปลี่ยนชุด ดรอปแล้วเปลี่ยนสถานที่ ทำให้ดาวติ๊กต๊อกทั้งหลายสร้างสรรค์ได้ไม่รู้จบ โดยเฉพาะลูกดรอปที่เปลี่ยนจังหวะก็ยิ่งทำให้มันตื่นเต้นมากขึ้น แม้แต่หนังสือพิมพ์ชื่อดังอย่าง The Washington Post ยังต้องขอตามเทรนด์
@washingtonpostJust another Monday for ‘Ned the Newshound’ ##foryou ##foryoupage ##crisscross ##applesauce♬ Tunnel of Love – haroinfather and Savage Ga$p
แต่ Tiktok ได้สร้างวัฒนธรรมที่น่าสนใจอีกอย่างหนึ่งขึ้นมาได้ มันค่อย ๆ เบลอเส้นแบ่งระหว่างความเป็นจริงกับเกมหรือการ์ตูนเข้าด้วยกัน อย่างเพลง Tunnel of Love ข้างบนก็ทำให้แฟน ๆ Zelda เกมชื่อดังของ Nintendo รู้สึกเชื่อมต่อกับบีตแบบนี้ได้ง่ายขึ้นด้วย Savage Ga$p หนึ่งในแร็ปเปอร์ของเพลงดังกล่าว ก็ยังมีอีกหลายเพลงที่เป็นไวรัลบน Tiktok และหลาย ๆ เพลงเขาก็ใส่เสียงพูดเสียงร้องหรือหยิบยืมแซมป์มาจากอนิเมะหลาย ๆ เรื่องมาใช้ กลายเป็นอีกหนึ่งองค์ประกอบที่ทำให้เพลงของเขาถูกพูดถึงบ่อย ๆ
สังเกตได้ว่า Pumpkins Scream in the Dead of the Night ก็มีองค์ประกอบหลาย ๆ อย่างที่ว่ามาทั้งหมดเลย ช่วงดรอปบีต เปลี่ยนจังหวะและเสียง lo-fi บูดบี้
@cadeduncanWhy my hands so veiny##eboy ##featurethis ##foryoupage ##fyp ##foryou♬ Pumpkins scream in the dead of night – Savage Ga$p, 93FEETOFSMOKE, shinigami
การลิปซิงก์ก็เป็นอีกหนึ่งคอนเทนต์ที่หลายคนชอบ เพราะมันทำลายกำแพงของภาษาและเชื้อชาติให้หายไป คุณไม่จำเป็นต้องเป็นคนผิวดำก็มีเอเนอร์จี้แบบคนผิวดำได้ โดยเฉพาะ Runway ที่สาวผิวขาวทั้งหลายก็อยากอวดโฉมความสวยในแบบของตัวเอง
ถึงมันจะชวนย้อนแย้งอยู่ซักหน่อย แต่หลายคนในความเห็นว่าเพลงนี้ซัพพอร์ตความรู้สึกของพวกเธอว่าไม่ต้องสวยในแบบพิมพ์นิยมก็ได้ แค่มั่นใจในแบบของตัวเองก็พอ ยิ่งได้สไตล์การร้องอันเร้าร้อนของ Stunna Girl ก็ยิ่งทำให้พวกเธอมั่นใจขึ้น ถ้าเนื้อเพลงสัมผัสเข้าไปเติมเต็มพวกเขาได้ เพลงก็เป็นไวรัลได้ไม่ยากเลย
แต่ก็ไม่ใช่ทุกเพลงที่จะแจ้งเกิดบนแพล็ตฟอร์มนี้ เบื้องหลังของเทรนด์ Tiktok หลายอันก็เป็นใบสั่งมาจากค่ายเพลง เพื่อให้เหล่า influencer ทั้งหลายระดมสมองกันว่าจะทำยังไงให้เพลงเหล่านี้ไวรัลได้ และแน่นอนว่ามีโอกาสแค่ 50% เท่านั้นที่มันจะดัง แม้แต่พวกเขาเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเด็กชอบฟังอะไร มันไม่มีสูตรตายตัวจริง ๆ ว่าทำยังไงเพลงเหล่านี้จะดัง
โดยเฉพาะหลาย ๆ เพลงที่ก่อนจะดังก็มีสารแบบหนึ่ง และเมื่อดังแถมไปไกลมาก ๆ สารเหล่านั้นก็เปลี่ยนไป จนทำให้หลาย ๆ แบรนด์เสียโอกาสขายของ หรือเกิดดราม่าเลยก็มีเหมือนกัน แม้แต่ Runway ก็เกิดการต่อต้านจากสาวผิวดำว่า พวกแกกำลังดูถูกสิ่งที่พวกฉันพูดมานานหลายสิบปีหรอ
แต่การแต่เพลงเพื่อแค่ให้ตัวเองดังก็อาจฟังดูไม่สนุกเท่าไหร่ เพราะเราอาจเสียตัวตนไปกับเพลงฮิตเพลงเดียวที่เราไม่ชอบมันด้วยซ้ำ สำคัญคือต้องถ่ายทอดความเป็นตัวเองออกมา แล้วปล่อยให้เวลาทำงานกับมันไปดีกว่า Jawsh 685 ก็ใช้เวลาตั้ง 8 เดือนกว่าจะดังได้ขนาดนี้ หรืออย่าง ซุปเปอร์วาเลนไทน์ ก็ยังกลับมาดังได้แม้เวลาผ่านไปนานแค่ไหน ‘เจน นุ่น โบว์’ กันทั้งบาง มาทำเพลงที่เราชอบดีกว่า อย่ามัวแต่ทำเพลงให้ดังเลย
อ้างอิง
pitchfork.com
vulture.com
forbes.com