‘Jason Barnes’ มือกลอง ‘แขนกล’ ที่สามารถหวดกลองได้ไวที่สุดในโลก
- Writer: Montipa Virojpan
- Photos: David Tulis, AJC Special
I refuse to let losing an arm prevent me from fulfilling my dreams… Nothing will stop me — Jason Barnes
คนที่ติดตามการ์ตูนญี่ปุ่นมาบ้างน่าจะเคยได้ยินอนิเมะเรื่อง ‘Fullmetal Alchemist’ หรือ ‘แขนกล คนแปรธาตุ’ ที่ตัวเอกในเรื่องต้องสูญเสียขาและแขนไปจากการชุบชีวิตมนุษย์ซึ่งเป็นสิ่งต้องห้าม ทำให้เขาต้องใส่แขนขาเทียมที่เรียกว่า automail เพื่อให้ดำเนินชีวิตได้อย่างปกติ
แต่ใครจะไปคิดว่าเรื่องแบบนี้จะเกิดขึ้นจริงกับ Jason Barnes ที่เมื่อปี 2012 ได้สูญเสียแขนขวาไปจากการประสบอุบัติเหตุหม้อแปลงไฟฟ้าระเบิดขณะทำความสะอาดท่อระบายอากาศบนหลังคาของร้านอาหารที่เขาทำงานอยู่ในเมืองแมคโดโน รัฐจอร์เจีย สหรัฐอเมริกา ตอนนั้นเขาอายุเพียง 22 ปี และการเสียแขนทำให้เขารู้สึกถูกช่วงชิงทุกสิ่งไปจากชีวิต เพราะความฝันหนึ่งเดียวของเขาคือการได้เป็นนักดนตรีอาชีพ—มือกลองระดับโลกที่ชื่อ เจสัน บาร์นส์
“ดนตรีก็เหมือนยาสำหรับผม มันเป็นสิ่งที่ช่วยเยียวยาและช่วยให้ผมหลุดพ้นจากความจริง การที่ผมเห็นพ่อเล่นกีตาร์มาตั้งแต่เด็กทำให้ผมอยากเป็นนักดนตรี” บาร์นส์ให้สัมภาษณ์ผ่านสารคดี ‘Superhuman’ ที่นำเสนอเรื่องราวนวัตกรรมทางการแพทย์ที่น่าสนใจ หนึ่งในโปรเจกต์ของกลุ่ม Freethink ที่ผลักดันให้คนมีความคิดสร้างสรรค์และมองเห็นสิ่งที่แตกต่างจากที่เคยมี ด้วยเหตุนี้เองจึงทำให้บาร์นส์ไม่ยอมแพ้ เขายอมรับในสิ่งที่เกิดขึ้นกับตัวเขาและหาทางกลับมาเล่นกลองให้ได้เหมือนเดิม เขาคิดค้นแขนเทียมอย่างง่ายที่มีข้อต่อไว้สำหรับเสียบไม้กลอง แต่ก็ไม่ได้คล่องแคล่วอย่างที่เคยเป็น ถึงกระนั้นแล้วเขาก็ยังไม่ละความพยายามจนได้รับเลือกให้เข้าศึกษาต่อที่ Atlanta Institute of Music and Media ในปีต่อมา
แล้วความฝันของเขาก็ถูกสานต่อ ระหว่างที่เขาศึกษาอยู่ที่วิทยาลัย อาจารย์ของเขาได้แนะนำให้บาร์นส์รู้จักกับทีมวิจัยแห่ง Georgia Institute of Technology นำโดย Gil Weinberg อาจารย์มหาวิทยาลัย และ Zack นักศึกษาปริญญาโท ซึ่งก่อนหน้านี้พวกเขาได้คิดค้นหุ่นยนต์นักดนตรีที่สามารถตีกลองแบบอิมโพรไวส์ได้ เพราะมันจะได้ยินเสียงเพลงที่บรรเลงออกมาจากนักดนตรีที่เป็นมนุษย์อย่างเรา ๆ นี่แหละ และครั้งนี้พวกเขาตั้งใจจะสร้างแขนกลให้กับบาร์นส์เพื่อที่เขาจะกลับไปเล่นกลองได้อย่างปกติ หรือไม่แน่นะ เขาอาจจะได้ความสามารถในการตีลูกแผลง ๆ แบบที่คนทั่วไปทำไม่ได้ก็ได้
อ่านมาถึงตรงนี้ อย่าเพิ่งคิดว่าเขาใช้เครื่องจักรเป็นตัวช่วยเพียงอย่างเดียว เพราะเขาอยากจะที่จะให้สมองของตัวเองสามารถควบคุมการใช้แขนกลนี้ได้ทั้งหมด ทีมวิจัยเล็งเห็นว่านี่จะเป็นการปิดช่องว่างระหว่างมนุษย์กับเครื่องจักรได้เป็นครั้งแรก พวกเขาใช้เทคนิคที่เรียกว่า ‘Electromyography (EMG)’ ซึ่งเป็นแบบเดียวกับที่ใช้ในการตรวจกล้ามเนื้อและเส้นประสาทด้วยไฟฟ้า สิ่งนี้ทำให้แขนเทียมเกิดการเคลื่อนไหวอย่างง่ายได้เพียงแค่การใช้ ‘ความคิด’ แต่นั่นยังไม่สามารถทำให้เขาควบคุมมันเองได้ทั้งหมด ทีมจึงใช้วิธีอัลตราซาวด์ควบคู่ไปด้วยเพื่อที่จะช่วยให้เซ็นเซอร์ได้เห็นสัญญาณที่บาร์นส์ส่งจากสมอง ไปยังกล้ามเนื้อ และ ‘นิ้วกล 5 นิ้ว’ ของเขาได้อย่างแม่นยำขึ้น และผลคือพวกเขาทำสำเร็จ ด้วยแขนกลนี้ทำให้เขาสามารถตีกลองได้ไวกว่าคนทั่วไปถึงสองเท่าอีกด้วย
เห็นอย่างนี้แล้ว นักดนตรีที่สูญเสียอวัยวะจนทำให้พวกเขาไม่สามารถเล่นดนตรีได้อีกต่อไป อาจจะกำลังมีความหวังครั้งใหม่อย่างที่ Jason Barnes ได้รับก็ได้ ตอนนี้เขาเริ่มมีงานแสดงหลายโชว์ แต่ปัญหาอยู่ตรงที่ว่า แขนกลต้นแบบนี้เป็นทรัพย์สินของ Georgia Institute of Technology ทำให้เขาและ Gil Weinberg ระดมทุนในเว็บไซต์ Kickstarter เพื่อที่จะผลิตแขนกลนี้ขึ้นมาอีกชิ้นเพื่อให้มันสามารถใช้ในการทัวร์คอนเสิร์ตและกลายเป็นของเขาโดยสมบูรณ์ เราสามารถเข้าไปช่วยสนับสนุนเขาได้ ที่นี่