ฉายาเจ้าชายแห่งความมืดของ Gesaffelstein ดีเจชื่อดังจากฝรั่งเศสนั้นไม่ได้มาเพราะโชคช่วยแต่อย่างใด แต่เป็นเพราะดนตรีเทคโนในแบบฉบับอันมืดหม่นของเขาตะหาก อีกทั้งปกอัลบั้มล่าสุดอย่าง Hyperion ยังเป็นสีดำสนิทอีกด้วย เรียกได้ว่ามาเป็นธีมสีดำกันขนาดนี้ ไลฟ์โชว์ที่ Coachella ของเขาก็ต้องคงไม่พ้นอะไรที่เกี่ยวกับเฉดสีดำแน่นอน

โชว์ที่ผ่านมาของเขาถือเป็นการกลับมาเล่นที่ Coachella ในรอบสี่ปี นาน ๆ กลับมาทั้งทีแบบนี้ จะเป็นโชว์ธรรมดาได้ยังไงกัน ล่าสุดได้มีการเปิดเผยว่าโชว์ของเขานั้นมีการใช้วัตถุที่ดำที่สุดในโลก แล้วยังเป็นศิลปินคนแรกที่ใช้มันในการแสดงสดอีกด้วย

ถ้าใครที่ได้ดูการถ่ายทอดสดโชว์ของดีเจชาวฝรั่งเศสในช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมาแล้วล่ะก็ จะเห็นได้ว่าจะเห็นได้ว่าบรรยากาศแถว ๆ ด้านหน้าเวทีในวันนั้นถูกปกคลุมไปด้วยความมืดมิด ฉากด้านหลังของตัวศิลปินกลายเป็นสีดำมืดสนิท มีแสงไฟพุ่งออกมาจากด้านหลังของตัวดีเจวัย 31 ปีเป็นช่วง ๆ ด้านเวทีและเครื่องดนตรีต่าง ๆ รวมทั้งตัวของนักดนตรีเองก็ถูกเคลือบด้วยสีดำ และมีความมันวาวเล็กน้อยเมื่อกระทบกับแสงไฟในโชว์

ในโชว์จะสังเกตเห็นได้ว่ามีแท่งสีดำขนาดใหญ่สองแท่งตั้งตระหง่านอยู่ด้านหลังของตัวศิลปิน โดยแท่งสองแท่งนั้นถูกเคลือบด้วย ‘Vantablack’ ซึ่งจริง ๆ แล้วมันไม่ใช่ชื่อสี แต่เป็นวัตถุสังเคราะห์ที่ถูกพัฒนาโดยบริษัท Surrey NanoSystems จากประเทศอังกฤษ และมีคุณสมบัติที่สามารถดูดกลืนแสงได้ถึง 99.965% ซึ่งนั่นหมายความว่ามันจะไม่สะท้อนแสงที่ตกกระทบมาด้วยนั่นเอง โดย Vantablack เองก็มีหลายรุ่น (รุ่นที่ Anish Kapoor ศิลปินที่เคยคิดสีที่ดำที่สุดในโลกออกมาจนเป็นที่ฮือฮาอยู่พักใหญ่ถือครองกรรมสิทธิ์นั้นกลายเป็นรุ่นเก่าแล้ว เพราะภายหลังทางบริษัทได้ผลิตเวอร์ชันที่ใหม่กว่าออกมาทำให้ Vantablack ของเขามีคุณสมบัติดูดแสงได้น้อยกว่า) Vantablack รุ่นทั่วไปจะประกอบไปด้วย Carbon Nanotubes (ท่อนาโนคาร์บอน) นับหลายล้านท่อ เพราะว่ามันมีขนาดเล็กกว่าเส้นผมถึงของมนุษย์ถึง 3,500 เท่า และมีความเปราะบางมาก ถ้าเกิดว่าสัมผัสมันโดยตรง จะทำให้ท่อคาร์บอนนาโนเสียหายได้ ส่วนรุ่นที่ใช้กับโชว์ของ Gesaffelstein คือรุ่น VBx 2 ที่มีความทนทานมากกว่า และเหมาะสำหรับการใช้พ่นกับงานสเกลใหญ่

กว่าที่จะได้แท่งวัตถุสีดำขนาดใหญ่นี้มานั้น เรียกได้ว่าไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ เลย เพราะว่าทีมเบื้องหลังของศิลปินต้องไปนัดคุยกับทางบริษัทผู้ผลิตด้วยตัวเองเพื่อระดมไอเดียและการวางแผนต่าง ๆ สำหรับโชว์นี้ และผลลัพธ์ที่ได้ออกมาก็คือแท่งเสาสีดำขนาดใหญ่สองแท่ง โดยแต่ละแท่งมีความสูง 30 ฟุต และถูกเคลือบด้วย Vantablack ถึง 70 ชั้น อีกทั้งยังต้องทำในห้องปฏิบัติการพิเศษ พร้อมระบบการควบคุมการผลิต และนี่จึงเป็นสาเหตุให้ที่ทำให้มันมีราคาสูงถึง 20,000 ดอลล่าร์สหรัฐ นับว่าเป็นโชว์ที่มีราคาแพงมากจริง ๆ

โดยธรรมชาติแล้ว เมื่อแสงไฟตกกระทบเข้าสู่วัตถุสีดำทั่ว ๆ ไป คนเรายังจะพอเห็นเฉดเงาและรูปร่างของวัตถุสีดำนั้น ๆ ได้อยู่ แต่สำหรับโชว์นี้ที่มีแท่งเสาขนาดใหญ่สองอันที่ถูกเคลือบด้วย Vantablack ตั้งอยู่ด้านหลัง คนที่ได้ไปดูไลฟ์โชว์ที่ตรงนั้นจริง ๆ อาจจะเกิดอาการงงงวยในตอนแรกได้ เพราะว่ามันมีสีดำสนิทจนตาของมนุษย์ไม่สามารถมองเห็นรูปทรงของแท่งเสาสองอัน พอเปิดระบบไฟแล้วจะมีแสงผ่าที่ตรงกลาง แล้วพุ่งเข้าสู่ตาของคนดูโดยตรง พอช่วงไหนไม่ได้เปิดแสงไฟก็จะมืดสนิทราวกับตรงนั้นไม่มีแผงไฟวางอยู่เลย เพื่อให้เห็นภาพได้ชัดเจนขึ้น เราอยากให้ลองเปิดดูวิดีโอที่แนบมาข้างล่างนี้

และเพื่อสร้างเซอไพรส์ให้คนดูมากยิ่งขึ้น ทีมเบื้องหลังของศิลปินจงใจออกแบบแท่งเสาขนาดใหญ่ให้มีส่วนโค้งเว้าเข้าไป ซึ่งพอมันเป็นวัตถุสามมิติแล้ว นั่นจะยิ่งสามารถหลอกตาคนดูได้มากขึ้น เพราะว่าปกติแล้ว การรับรู้ของคนเราจะรู้ว่าวัตถุมันควรจะมีความตื้นลึกหนาบางขนาดไหน แต่สิ่งที่พวกเขาเห็นกลับเป็นภาพแบนราบเมื่อวัตถุนั้นถูกเคลือบด้วย Vantablack นอกจากนี้โชว์ของเขายังเลือกเล่นตอนเวลาฟ้าสาง ซึ่งเป็นเวลาที่ดีที่สุดที่จะให้คนดูสามารถเห็นท้องฟ้า และบรรยากาศรอบ ๆ ที่ตัดกันกับโชว์สีดำสนิทของ Gesaffelstein ได้ดีที่สุด

อ่านมาถึงตรงนี้หลายคนอาจจะสงสัยว่า แล้วตัวของศิลปินนั้นก็ถูกเคลือบด้วย Vantablack ด้วยรึเปล่า คำตอบนั่นก็คือไม่ ชุดของเขาเป็นการร่วมมือกันทำกับแบรนด์แฟชั่นอย่าง Balmain ที่ตัวชุดจะเป็นสีดำเงาเพื่อให้ตัวศิลปินดูเด่น และไม่กลืนไปกับฉากหลังสีดำสนิท โดยมันทำมาจากผ้าฝ้าย โลหะ และหนังสัตว์

นอกจากนี้ยังมีเรื่องราวเกี่ยวกับกระบวนการขนย้ายวัตถุอีกเล็กน้อย สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ >ที่นี่<

อ้างอิง
How Gesaffelstein’s Coachella Set Tricked Minds With The World’s Blackest Black
VANTABLACK – The Darkest Material on Earth
Surrey NanoSystem

• Twitter
• Line