F.HERO (กอล์ฟ), Lazyloxy(ท้อป) และOG-ANIC(บิ๊ก)

Article Interview

ครั้งแรกของการพูดคุยกับ F.Hero และสองศิลปินแห่งวงการฮิปฮอปที่หลายคนคุ้นเคย

  • Writer: Yanabhus Suriyajai

F.HERO (กอล์ฟ), Lazyloxy (ท้อป) และ OG-ANIC (บิ๊ก) เจ้าของซิงเกิ้ลฮิต มีแค่เรา มารอเราอยู่ที่ What the Duck โดยพร้อมเพรียง เพื่อจะพูดคุยถึงเรื่องต่าง ๆ ที่น่าสนใจ แต่ว่าจะมีเรื่องอะไรบ้าง เชิญอ่านกันได้กับบทสัมภาษณ์ที่เรายินดีนำเสนอและคำตอบดี ๆ จากศิลปินได้เลย

แรงบันดาลใจของซิงเกิ้ล มีแค่เรา

F.HERO: แรงบันดาลใจเกิดจากเราอยากมีเพลงแมสครับเพราะว่าปกติยังแมสไม่พอครับ (FJZ: เพลงไม่แมสสำหรับคุณกอล์ฟเป็นยังไง) อย่างเพลงที่พี่ปู (พงษ์สิทธิ์ คำภีร์) มาฟีตเจอริ่งก็ยังไม่ค่อยแมส

Lazyloxy: มันเป็นเพลงที่เราไม่ได้แต่งมาเพื่อเอาใจคนฟังมาก หรือว่าไม่ได้ขายร้านเหล้าอะไรอย่างงี้ (F.HERO: ชูใจ อย่างงี้) ไม่ใช่เพลงอกหักไม่ใช่เพลงบอกรัก

F.HERO: เอาง่าย ๆ คือตอนนี้ลาออกจากพี่โจ้ (Joey Boy) มาทำเองจึงต้องคิดโชว์เองด้วย แล้วทีนี้ไม่มีเพลงโชว์ในร้านเหล้า นั่นก็คือไม่มีเพลงแมสนั่นเอง คนดูโชว์เราก็จะนิ่ง ก็เลยต้องการเพลงที่ทำงานได้ในวันโชว์จริงเพื่อจะให้คนซื้อโชว์

เหมือนกับว่าการแร็ปจะมีสายที่แร็ปอะไรเรียล ๆ หรือแร็ปเรื่องอะไรก็ได้?

ทุกคน: ใช่ครับ (OG-ANIC: จริง ๆ ก็มีหลายสายโคตรเยอะ)

Lazyloxy: อย่าง old school ค่อนข้างพูดเรื่องชีวิตเลย

F.HEROฺ: ใช่ คือถ้าเราร้องแค่เพลงแบบเราเองหรือที่มันยาก ๆ เนี่ย ซึ่งในร้านเหล้าไม่ได้อยากจะฟัง พอเราลาออกมาทำเพลงเองจะคิดถึงแต่ตัวเองไม่ได้เพราะว่าเรามีลูกน้องต้องดูแล ก็เลยคิดว่าเราต้องหาเพลงที่มันโชว์ได้จริงจึงเกิดการขอความช่วยเหลือ อย่างเพลงที่แล้วก็ขอความช่วยเหลือจาก P-Hot, YOUNGOHM และ DeejayB มาทำ เสือสิ้นลาย ซึ่งประสบความสำเร็จด้วยดี ก็พอมาเป็นเพลงล่าสุดก็ใช้วิธีเดียวกันคือความช่วยเหลือจากคุณ NINO, Lazyloxy และ OG-ANIC จึงกลายมาเป็นเพลงนี้ มีแค่เรา

เนื้อหาในเพลงคุณกอล์ฟเอามาจากไหนบ้าง

F.HERO: จากการใช้ชีวิต ดูหนัง และอ่านหนังสือ

แล้วคุณกอล์ฟคิดว่าเพลงไหนแสดงความเป็น F.HERO ที่สุด

F.HERO: ชูใจ ครับ เราคิดว่าเพลงนี้จะเป็นเพลงที่เราชอบที่สุด มันเป็นเพลงที่บอกความรู้สึกครบที่สุดและมันมาจากข้างในจริง ๆ

 

การที่แร็ปเปอร์ชวนกันมาทำงานมันเป็นวัฒนธรรมรึเปล่า

F.HERO: ให้สองคนนี้ตอบละกัน Lazyloxy กับ OG-ANIC เพราะช่วงนี้เขา featuring เยอะ (FJZ: ใคร ๆ ก็ว่าเป็นช่วงของเขาเลย)

Lazyloxy: จริง ๆ ผมก็ไม่ได้สนว่าปีนี้จะเป็นของใครนะแต่เพียงว่ายุคนี้มันเป็นยุคของฮิปฮอป ไม่ว่าจะแร็ปเปอร์คนไหนจะทำเพลงอะไรก็ค่อนข้างมามาก จริง ๆ การ featuring ก็เป็นวัฒนธรรมนะรู้สึกว่ามันได้อะไรใหม่ ๆ ด้วย

OG-ANIC: ผมว่าเวลามันเกิดสิ่งใหม่มันจะน่าสนใจกว่าเดิม

Lazyloxy: แต่จริง ๆ แล้วเราก็ไม่ได้จะ featuring กับแนวฮิปฮอปอย่างเดียวนะก็อยากทำกับหลาย ๆ แนว ผมว่าการ featuring เกิดขึ้นกับหลาย ๆ เพลงแล้วมันจะดีนะมันจะมีอะไรใหม่อีกเยอะอะ แต่แค่ว่าสำหรับเพลงแร็ปมันง่ายไง เพราะว่าการแร็ปมันก็คือการเขียนความรู้สึกในใจลงไปใส่กับบีต มันเลยง่ายกว่าดนตรีแนวอื่น อย่างแนวอื่น ๆ ก็ต้องคิดหาไลน์กีตาร์นู่นนี่นั่น แต่ฮิปฮอปแค่มีคนเขียนบีตแล้วแร็ปใส่มันก็เสร็จ มันเลยง่ายต่อการ featuring กัน

การที่ mv เพลงฮิปฮอปส่วนใหญ่นำคนในวงการมาร่วมแสดงใน mv มันมีความหมายอะไรไหม

Lazyloxy: อย่างใน mv เพลงนี้ผมว่ามันต้องมีพี่มิก (VKL) อะและก็มีม่อน (Diamond) ด้วย ซึ่งม่อนก็แสดงได้ดีนะ ผมคิดว่าการมีแร็ปเปอร์คนอื่นใน mv จะทำให้เราเห็นอะไรหลาย ๆ อย่างใน mv อะ

 

มีความคิดเห็นอย่างไรกับการทำเพลงคนเดียวกับมีคนอื่นมา featuring

F.HEROฺ: ผมมองว่ายุคนี้มันเป็นยุคที่เปิด หมายความว่าอะไรที่เราทำไม่ได้เราก็ควรหาบุคลากรที่มีความสามารถมาทำให้เรา ผมเรียกมันว่า ‘ศิลปะของ DJ KhaledDJ Khaled เป็นคนที่มีเงินและ connection เขากดบีตไม่เป็นเขาแร็ปไม่เป็นเขาร้องไม่เป็น แต่เขาปรากฎตัวทุก mv วิธีการของเขาคือ อยากจะเอาส่วนผสมแบบไหน หรืออยากจะให้ใครร้อง หรืออยากให้ใครแร็ป หรืออยากให้ใครมาทำบีต เขาก็จะจัดมาแล้วเอามาทำเพลงด้วยกันซึ่งคนที่ในวงการเพลงยอมให้ทำได้ก็คือ DJ Khaled และเพลงที่ออกมาจะถูกเรียกว่าเพลงของ DJ Khaled พูดง่าย ๆ คือเขาเป็นคนที่หาอะไรที่เขาชอบมาผสมกัน และผมก็รู้สึกว่ามันถูกนะ อะไรที่เราทำไม่ได้เราก็ไปหาสิ่งที่มันทำงานแทนเราได้แบบนี้ ซึ่ง DJ Khaled มีเพลงฮิตเต็มชาร์ต Billboard เลยนะและยังได้ Grammy Awards อีกด้วย ขอแค่รู้ว่าอยากฟังอะไรก็พอ (Lazyloxy: ผมก็ไม่เห็นเขาทำอะไรเลยนะนอกจากพูดว่า ‘We’re the best!’) (หัวเราะ) แต่สุดท้ายก็คือเพลงของ DJ Khaled

คุณกอล์ฟชอบเพลงไหนที่ตัวเองไป featuring

F.HERO: ผมชอบที่ผมไปร้องกับ The Must องศาที่ต่างกัน ผมชอบอันนั้นมากเพราะผมคิดว่าผมจะไม่สามารถกลับไปเขียนอะไรแบบนั้นได้แล้ว คือเขียนด้วยการสร้างเรื่องขึ้นมาแล้วก็จบเองซึ่งมันยากมาก (Lazyloxy: โคตรอารมณ์อะพี่!) คือกลับมานั่งฟังอีกทีแล้ว เออว่ะ กูทำไปได้ยังไงวะ มันมีการขมวดท้ายปิดข้างบนได้ รู้สึกว่าฟลุกโคตร ๆ

เร็ว ๆ นี้จะมีเพลงที่ไม่ featuring บ้างรึเปล่า จะมีเพลงแบบเรียล ๆ เครียด ๆ ให้ฟังอีกไหม

F.HERO: ในอัลบั้มใหม่ฟีตเจอริ่งทุกเพลงเลยมีทั้งหมด 24 เพลง เป็นศิลปะแบบ DJ Khaled ครับ (หัวเราะ) เพลงเครียด ๆ มีครับ มีเยอะมาก แค่ท่อนฮุกอาจไม่ได้ร้องเอง คือในอัลบั้มจะมีการแบ่งครึ่งสองพาร์ต พาร์ตละ 12 เพลง ก็คือ 12 เพลงเครียดกับ 12 เพลงขาย อย่าง สวัสดีวันจันทร์ อยู่ฝั่งเครียด ส่วน YUP, เสือสิ้นลาย และ มีแค่เรา เป็นฝั่งขาย เพียงแต่ยังไม่อยากปล่อยฝั่งเครียดเยอะ

เชียร์ใครในรายการ Rap Is Now season 4 ไหม

F.HERO: ปีนี้เชียร์ AUTTA กับ VANGOE ครับ (หัวเราะ) (OG-ANIC: ผมก็เชียร์ AUTTA )

คิดเห็นอย่างไรกับผู้เข้าแข่งขัน Rap Is Now season 4

F.HERO: โอโห เก่งมากครับแล้วก็มาแบบใหม่ อีกอย่างคือบางคนมาแข่งแบบฝึกไม่นานฝึกแค่ 1-2 ปี แบบว่าสุดยอดเลย ปีนี้คือมาแบบใหม่หมดถ้าไม่นับ TORDED นะ คือแต่ละคนใหม่และเก่งหมดแล้วพลิกล็อกหมดเลยใครจะไปรู้ว่า STAGE N จะมา M-PEE ดูดีมากและออกมาทำเพลงเองก็แลดูขายได้เลยอะ มันจะเหมือน P-HOT อะ

Lazyloxy: M-PEE ดู turnt ไปเลยและสัดส่วนโคตรดี อย่าง DONDY มาจากไหนไม่รู้อะ สุดท้ายก็กลายเป็นรองแชมป์ ปีนี้มาแบบว่าเปิดตัวมาก็ unique เลย 

แล้วคิดเห็นอย่างไรกับแชมป์ซีซันนี้

F.HERO: ดีใจด้วยครับ STAGE N เขาคู่ควร (Lazyloxy: เขาเป็นตัวเองมาตั้งแต่ต้นละ) ได้ยินมาว่ารอบที่ใส่กับ AUTTA ก็ไม่ธรรมดา (OG-ANIC: ใช่ครับ แก้เผ็ดดีเลย)

คุณกอล์ฟมีใครในซีซันนี้ที่อยากร่วมงานด้วยไหม

F.HERO: ผมอยากทำกับ PERM.YARB เพราะว่าเขาน่าจะร้องเพลงดีและผมชอบหัวล้านรู้สึกถูกโฉลก (หัวเราะ) อยากทำเพลงเกี่ยวกับพุทธศาสนา (หัวเราะ)

 

 

 

ทำอะไรมาบ้างก่อนจะมาเป็นแร็ปเปอร์

F.HERO: ก็มีทำงานอยู่ MTV แมกกาซีนแล้วก็เคยเป็นครีเอทีฟอยู่แกรมมี่เหมือนกัน

OG-ANIC: ผมทำงานขายของ แล้วก็ทำงานในคลังสินค้า (F.HERO: อ่าวเหรอ แล้วเรียนจบอะไรมา) ผมจบ ปวช.3 ศิลปะการออกแบบ แต่ว่าไม่ได้อะไรเลยเพราะผมไม่ค่อยเอาเรื่องเรียน และเคยเป็นบาร์เทนเดอร์ตามร้านเหล้า (F.HERO: เป็นอะไรไหม มาจากเพราะคุณเป็นบาร์เทนเดอร์ปะ) ใช่ครับ (Lazyloxy: จริง ๆ ใน mv ผมจะเป็นคนเล่นดนตรีละ)

Lazyloxy: ส่วนผมก่อนแร็ปก็เป็นนักศึกษานี่แหละ อยู่ราชมงคลเรียนดนตรีสากลขับร้องคลาสสิก และเล่นดนตรีตามร้านเป็นเพลงอินดี้บ้างแมสบ้าง (FJZ: แล้วทุกวันนี้ยังเล่นอยู่ไหม) ก็เล่นกับคนที่รู้จักพอไม่ได้เล่นให้คนอื่นฟังแล้ว  (F.HERO: Warmlight ไง) เพื่อนผมที่เล่นกีตาร์กับผมทำเพลงลงฟังใจด้วยนะ ชื่อวง ภูธร@นครบาล จะเป็นอีสานโฟล์ก ผมชอบมากเพราะว่ามันดิบดี

สมัยที่ยังไม่เป็นศิลปินฟังเพลงอะไรบ้าง

F.HERO: เพลงตลาดทั่วไป ลูกทุ่ง คือผมเป็นคนฟังเพลงและชอบดูชื่อคนทำเบื้องหลังด้วย มันมาจากชอบอ่านปกซีดีเพลง อย่างเราอ่านปกซีดีเพลงนึงแล้วรู้ว่า อ้อ อัยย์ พรรณี มีพี่ป้างเป็นโปรดิวเซอร์นี่หว่า หรือ อ้อ เพลงนี้พี่ใหญ่อาทิตย์ สาระจูฑะเขียน คือมีความสุขกับการอ่านเครดิตมาก ๆ แต่เอาจริง ๆ ก็ฟังทุกแนวและฟังลึกมาก อย่างก่อนจะสัมภาษณ์ยังนั่งคุยกับสองคนนี้เลยว่า SO::ON Dry FLOWER เราก็ฟัง ก็คือฟังหมดเลยครับ แต่แค่การแร็ปเราทำออกมาดีที่สุดเราเลยเลือกแร็ปเท่านั้นเอง

OG-ANIC: ผมก็ไม่ได้ปิดกั้นแนวไหนนะ แต่ผมก็ไม่ได้ฟังเพลงกว้างเท่าไหร่ แต่ที่ชอบมาก ๆ คือ ฮิปฮอปกับร็อกสองอย่าง ร็อกผมจะฟังหนัก ๆ ไปเลยอย่าง Slipknot หรือ Avenged Sevenfold (คิดยังไงกับอัลบั้มใหม่ของ Bring Me The Horizon?) (F.HERO: คนด่าเยอะจังเลยฮะ)

Lazyloxy: มันก็ดีนะครับแค่มันแตกต่างจากเดิม แต่เพื่อนของผมโคตรไม่ชอบเลยอะ ตอนแรกผมก็ตกใจนะว่านี่คือ BMTH จริงรึเปล่าวะ แต่ฟังไปฟังมา เฮ้ย ดีว่ะ

F.HERO: เอางี้ดีกว่า Linkin Park อัลบั้มล่าสุด พี่ชอบมาก พวกเราชอบกันไหม แต่ยังไงพี่คิดว่ากว่าอัลบั้มจะออกมาก็ต้องผ่านความคิดความเข้าใจมาประมาณนึงแล้ว

Lazyloxy: อย่างผมไม่ใช่คนที่ร้องเพลงมาตั้งแต่แรกแล้วเพิ่งมาร้องตอนอยู่มหาลัย แต่ก่อนผมก็ฟัง new school มา แล้วการฟังเพลงของผมคือการฟังมันทั้งอัลบั้มไปเลยไม่ใช่ฟังแค่เพลงฮิตอะ ช่วงหลัง ๆ ก็ฟังนอกกระแส (F.HERO: YENTED เหรอ) ผมว่าวงนี้มีความเป็น r&b สูง แล้วตอนเล่นสดโคตร turnt เลยอะ (หัวเราะ) คิดไปคิดมาเอามาเล่นกับฮิปฮอปได้เลยนะเนี่ย และอีกวงที่ผมชอบมากคือ Møle The Explosion

ผลงานของศิลปินคนไหนที่มีอิทธิพลกับผลงานของเรา

F.HERO: ถ้าที่ผ่านมาก็เยอะนะ แต่ถ้า ณ ขณะนี้ก็ยังเป็น DJ Khaled ครับ (OG-ANIC: พี่กอล์ฟพูดบ่อยจนผมเริ่มชอบละ (หัวเราะ)) คือผมรู้สึกว่ามันไม่ปิดตัวเองดีพอลองทำเลียนแบบดูมันก็แปลกดี

OG-ANIC: หลายคนอยู่ครับ ผมชอบจำแนวคิดจากเพลงต่าง ๆ มาแล้วก็เอามาแต่งแบบเราดู ส่วนพวกซาวด์ชอบอาจารย์จู (JUU4E) Illslick หรือพี่ UMA ผมก็ได้อิทธิพลมาเยอะ  (F.HERO: พอ OG-ANIC พูดถึงก็เริ่มเห็นด้วยมันมีส่วนทุกคนจริง ๆ ) ส่วนใหญ่ก็จะเป็นฮิปฮอปด้วยกันนี่แหละครับ

Lazyloxy: มันมีผลต่อผมหลายคนมาก ส่วนใหญ่จะเป็นต่างประเทศอย่าง Drake ผมฟังตั้งแต่จากเขาเขียนเพลงรักมาจนเป็นเพลงแก๊งแล้วก็เปลี่ยนมาเป็นแมสเลย ผมแค่รู้สึกว่าอยากทำได้แบบนี้บ้าง

อะไรที่ทำให้ชอบฮิปฮอป

F.HERO: ผมว่าฮิปฮอปเหมือนกระจก คือเวลาจะถ่ายทอดมันสามารถถ่ายทอดได้ทุกเมื่อ เอามันไปตั้งไว้ตรงไหนมันก็เล่าได้ตรงนั้น มันไม่จำกัดและครอบคลุมดีครับ

OG-ANIC: ผมใช้คำว่า ‘ชอบแร็ป’ ละกัน ผมชอบแร็ปเพราะว่าบางครั้งแนวอื่น ๆ มันตอบสนองอารมณ์เราไม่พอแล้วอะ แล้วตอนแรกผมเป็นคนคิดมากว่าแร็ปนี่แหละใช้คำได้เยอะดี ผมก็ลองแต่งไรห์มแล้วก็ชอบมาตั้งแต่นั้นเพราะมันเหมือนได้ระบายสิ่งที่อัดอั้นอยู่ในใจ

Lazyloxy: สมัยก่อนผมเต้นบีบอยตั้งแต่ ม.1 ตามพี่ ๆ ของผม แล้วพี่ ๆ ของผมก็ทำอะไรหลายอย่างมาก เช่น free running, สเกตบอร์ด (F.HERO: เป็นเด็กแก๊งมาก่อนเหรอ?) ผมว่ามันเป็นครอบครัวมากกว่าไม่ถึงขั้นแก๊งขนาดนั้น บางทีเราก็ไปเล่นอะไรแถวสวนลุม ฯ เต้นเปิดหมวกบ้าง ผมว่ามันมีความรู้สึกดีรู้สึกว่าได้ใช้ชีวิตเด็กผู้ชายเต็มที่ดี และมันก็มีผลต่อผมที่ชอบเขียนกลอนอยู่แล้วทำให้สนใจมาฟังเพลงแร็ปด้วย พอฟังเพลงแร็ปก็ทำให้ผมชอบฟังบีตมากเลย มันสนุก

ซีนฮิปฮอปไทยในช่วงที่พี่กอล์ฟเพิ่งเป็นศิลปินกับตอนนี้แตกต่างกันอย่างไร

F.HERO: ซีนสมัยผมเนี่ยไม่ค่อยจะขายได้เหมือนตอนนี้นะ จะทำมาหากินกับสิ่งนี้ได้ยากเพราะกลุ่มตลาดมันแคบจะไม่ค่อยมีรายได้จากศิลปินแนวนี้สักเท่าไหร่เมื่อเทียบกับดนตรีนอกกระแสแนวอื่น ๆ ทำให้เพื่อนของผมค่อนข้างเปลี่ยนรูปแบบคือเลิกแร็ปแล้วไปทำอย่างอื่น น้อยคนมากที่ตอนนี้ยังคงทำแร็ปอยู่ ยุคของเราคนที่สามารถหาเงินได้จากเพลงแร็ปจริง ๆ ถ้า 100 คนก็จะมีได้สักไม่เกิน 10 คน น้อยมาก ๆ ครับ ก็จะมีแค่ Thaitanium, ก้านคอคลับ หรือ Buddha Bless แค่นี้ แต่ยุคนี้ไม่ใช่ เพราะการมาถึงของ YouTube หรือ Rap Is Now หรือสื่อใหม่ ๆ กับรายการต่าง ๆ ทำให้ฮิปฮอปกลายเป็นสิ่งแมสหมดเลย ตอนนี้ฮิปฮอปกลายเป็นเพลงของกลุ่มตลาดทั่วไปแล้วอะ ทุกคนฟังได้หมดเลย อีกอย่างหนึ่งผมว่าการมาถึงของวัฒนธรรม K Pop ก็มีส่วน ซึ่งในทุกวง K Pop จะมีตัวแร็ปอยู่ในนั้นทำให้สาว ๆ ที่คลั่งไคล้ K Pop สามารถมาชอบแร็ปเปอร์ไทยของเราได้ ทุกอย่างมันก็เลยกลายเป็นแมสไปเลย พ่อแม่เราก็รู้จักแร็ป แม้กระทั้งนักการเมืองเราก็จะหาเสียงด้วยการแร็ปเพื่อให้เข้าถึงคนหมู่มาก ดังนั้นยุคนี้จึงมีแร็ปเปอร์อยู่เยอะและมันก็น่ายินดีที่สามารถทำเป็นอาชีพได้จริง

คุณกอล์ฟคิดว่าการที่เรามีภรรยาเป็นแฟนคลับศิลปินเกาหลีเราจะต้องมีการปรับตัวอย่างไรบ้าง

F.HERO: ก็ต้องหาเงินเยอะ ๆ ให้เขาครับ (หัวเราะ) ซึ่งภรรยาของเราอยู่หลายด้อมด้วย ตั้งแต่ GOT7 เลย แต่ยังไงเราก็ต้องเปิดใจยอมรับครับ เพราะว่าเราเองก็ยังชอบ BNK48 (หัวเราะ) อย่าน้อยเราก็ยังพอแลกเปลี่ยนกันได้ทีใครทีมัน แต่เพียงว่าเราไม่สามารถไปงานจับมือได้แต่เขาสามารถไปด้อมวงเกาหลีได้ ก็ยังดีที่เขายอมให้เราดูน้องน้ำใส เราก็คุยกันได้อยู่ แต่เราก็เสียเปรียบเขาอยู่ดีอะ (หัวเราะ)

ทำไมถึงตัดสินไปเต้นเพลง K Pop ที่รายการ The Show

F.HERO: เราปรามาสว่ามันจะไปยากอะไรการแร็ปอย่างเราเจ๋งกว่าเยอะเลย แต่ว่าก็ต้องพิสูจน์ถ้าเราทำไม่ได้อย่างเขาเราจะไปว่าเขาแบบนั้นไม่ได้ เพราะฉะนั้นก็เลยลองดู ลองให้ภรรยาเห็นด้วยว่าเราเท่กว่าเขาเยอะ แต่ปรากฎว่าเราฝึกซ้อมอยู่ครึ่งปียังเละเลย คือมันไม่ง่าย ผมจึงตรัสรู้ได้เลยว่าถ้าทำไม่ได้อย่าได้บอกว่าตนเองเหนือกว่าใคร ทุกคนมีเรื่องที่เก่งเฉพาะทางของเขา เรื่องนี้มันลดอัตตาเราลงได้ดีมาก ๆ เลย คือเราต้องยอมโดยสดุดีและยอมรับว่าพวกวง K Pop ต่าง ๆ เก่งจริง ๆ อย่างคนที่เต้นคัฟเวอร์ถ้าเกิดร่างกายไม่แข็งแรงและไม่มีพื้นฐานเลยไม่มีทางทำได้ ใครจะบอกว่าเต้นแบบนั้น ‘ตุ๊ดว่ะ’ ช่างมันเหอะ แต่มันต้องแข็งแรงจริง ๆ นะ พอได้ลองทำถึงกับต้อง pay respect เลยครับ หลังจากนั้นตัวตนของเรามันก็เปิดรับอะไรมากขึ้น และอีกอย่างการที่เราฟังเพลงเกาหลี เพลงพวกนี้ให้อะไรเราเยอะมากนะ เรารู้สึกว่าเพลงของเขาสามารถสู้ฝั่งอเมริกาได้เลย มีวงนึงที่ผมไปฟังมา HYUKOH ภรรยาผมก็ฟังด้วย วงนี้เพลงดีมากเลยและฟอร์มเพลงก็ไม่เหมือนฝั่งอเมริกาด้วยนะ HYUKOH คือ HYUKOH เลย เราไม่เคยฟังแบบนี้อะก็ลองเปิดใจฟังมันก็เพราะดี

คุณกอล์ฟมีวิธีเลี้ยงดูน้องชูใจยังไงบ้าง

F.HERO: ผมเลี้ยงด้วยวิธีการปล่อยให้เป็นไปอะครับ ผมจะไม่เอาลูกไปแข่ง ผมจะไม่สนการแข่ง โรงเรียนผมยังไม่ค่อยให้ไปเลย เพราะกลัวว่าเขาต้องเจอการแข่ง (หัวเราะ) ผมชวนลูกเที่ยวซะจนลูกขอไปโรงเรียน (หัวเราะ) อะไรแบบนี้ครับ ผมจะปล่อย ๆ ไม่ค่อยอยากให้เขายึดติดกับอะไรเอาแค่ว่าชีวิตนี้ทำอาชีพสุจริตแล้วรอดตายได้ก็พอ ก็เลยไม่ได้ต้องการว่าลูกจะต้องเก่งอะไร ขอแค่เป็นคนดีนอกนั้นจะเป็นอะไรก็ได้ กวาดขยะก็ขอกวาดให้ดี แล้วอยู่ได้ด้วยความสบายใจและมีความสุขแค่นี้ก็พอแล้ว แต่ที่อยากให้ทำได้คือภาษาอังกฤษกับภาษาจีนเท่านั้นแหละ รอดสองภาษานี้ก็จบละ แต่นอกนั้นเรียนไม่จบก็ได้

คุณกอล์ฟบอกได้ไหมว่าพ่อแม่ที่ดีคืออะไร

F.HERO: โห ยากเลยครับ ไม่กล้าบอก และผมก็ยังไม่ใช่ด้วย พอเป็นพ่อคนจริง ๆ สิ่งที่ยากที่สุดคือการเป็นคนดีครับ เพราะว่าการเป็นพ่อที่จะสอนเด็กได้ดีที่สุดคือการเป็นตัวอย่างให้กับเขา ก็คือถ้าเราดีไม่พอเราจะไม่กล้าไปสอนเขาเพราะฉะนั้นสิ่งที่ควรขัดเกลาก่อนลูกก็คือตัวเราเอง พอมีลูกเราจะเห็นข้อเสียในตัวเราเยอะมาก อย่างเราชอบตะโกน เราใจร้อน หรือชอบพูดคำหยาบ ถ้าเรายังแก้ไม่ได้เราอย่าพึ่งไปสอนลูกเรื่องนี้เลย เพราะฉะนั้นเราก็เลยเรียกตัวเองว่าพ่อที่ดีไม่ได้ เพราะผมรู้ตัวว่าผมเหี้ยมาก (หัวเราะ) ลูกเหมือนกระจกที่สะท้อนตัวเราอะ

ตั้งแต่วันที่คุณกอล์ฟเริ่มเป็นศิลปินจนถึงตอนนี้คุณกอล์ฟคิดว่าเรามาไกลแค่ไหน

F.HERO: โอโห มาไกลมาก ๆ วันแรก ๆ เรายังคิดว่าเราคงขอเป็นแค่แฟนเพลง แต่พอผ่านไปสักพักเราเริ่มคิดว่าเราต้องทำมาหากินกับเรื่องนี้จริง ๆ และเป็นสิ่งเดียวที่ทำให้ชีวิตมีค่า (FJZ: แล้วอยากไปต่อให้ถึงจุดไหน) ตอนนี้มองไว้ที่อัลบั้มที่ 3 ครับ

ถ้าได้ย้อนเวลากลับไปหาตัวเองตอนที่เพิ่งเป็นศิลปินอยากจะพูดอะไรกับตัวเอง

F.HERO: จะบอกว่า ‘เดี๋ยวจะเข้าใจเอง’ (หัวเราะ)

OG-ANIC: ผมจะบอกว่า สู้ ๆ เหนื่อยหน่อยนะมึง’ (หัวเราะ)

Lazyloxy: ผมยังไม่รู้นะ เพราะผมเพิ่งจะเป็น (หัวเราะ) ผมว่าสำหรับผมมันแค่ช่วงแรกอยู่

 

คอนเสิร์ต Bodyslam Fest ที่คุณกอล์ฟได้ไปร่วมแสดงเป็นอย่างไรบ้าง

F.HERO: ขาสั่นครับ (หัวเราะ) เราจะรู้สึกว่าพี่ตูนโคตรยิ่งใหญ่ ยิ่งใหญ่ในความเป็นมนุษย์อะ เรารู้สึกว่าไฮไลต์ของคอนเสิร์ตนี้ไม่ใช่แค่เพลงแต่จะมีตอนที่เล่นทะเลดาวกัน ส่วนใหญ่รูปที่ถ่ายมาเป็นรูปทะเลดาวหมดเลย แล้วทำไมทุกคนประทับใจเรื่องนี้ มีมนุษย์ไม่กี่คนที่สามารถทำให้คนหกหมื่นคนทำแบบนั้นได้ และไม่ได้ทำด้วยแรงบังคับแต่มันทำได้เพราะทุกคนรักเขา ผมเลยรู้สึกว่าเรื่องนี้ยิ่งใหญ่มากสำหรับผม มันเหมือนนิทานอีสปเรื่อง ‘ลมกับพระอาทิตย์’ ที่แข่งกันว่าใครจะทำให้คนถอดเสื้อโค้ตออกก่อน ในขณะที่ลมพยายามพัด ๆๆๆ ส่วนพระอาทิตย์ปล่อยความร้อน เปรียบกับพี่ตูนระหว่างทำให้คนอื่นเขารักกับบังคับให้คนอื่นเขาทำอะ ทำให้คนเขารักดูง่ายกว่าเยอะ

แล้วคิดอย่างไรหรือรู้สึกอย่างไรกับพี่ตูนบ้าง

F.HERO: โอ้! พี่ตูนเป็นคนที่ข้างหน้าเป็นอย่างไรข้างหลังก็เป็นอย่างนั้นครับ คือแกเป็นคนอย่างนั้นจริง ๆ แกเป็นคนที่ยิ่งใหญ่ ถึงจะตัวเล็กแต่ให้แรงบันดาลใจเยอะ เหมือนพลังแกไม่หมดมีแต่ให้ ๆๆๆ ผมจำได้ว่าผมนั่งดูพี่ตูนซ้อมสองวันแล้วเว้น แล้วก็เล่นอีกสองรอบ คือร้องอยู่อย่างนั้นผมว่าน่าจะร้องกับคอนเสิร์ตนี้ประมาณ 3-4 ชั่วโมงไม่น่าต่ำกว่า 7-8 รอบภายในอาทิตย์นึง วนซ้ำอยู่อย่างนั้น ๆ แต่ว่า ณ ขณะรอบสุดท้ายที่เล่นยังวิ่ง บ้าอะ (หัวเราะ) แต่ก็เข้าใจได้เพราะเขาวิ่งมาทั้งประเทศเนาะ และคอนเสิร์ตนี้คือแกอารมณ์ไม่ตก แรงไม่ตก วินัยต้องสุดยอดอะ

คุณกอล์ฟรู้สึกอย่างไรที่หลาย ๆ คนมองว่าเป็นตัวท้อปของวงการฮิปฮอป

F.HERO: โอ้ ไม่เลยครับ ถ้าผมเป็นตัวท้อปผมคงไม่ขอความช่วยเหลือจากน้องสองคน (Lazyloxy และ OG-ANIC) ณ ขณะนี้ผมยอมรับว่าตัวเองเป็นคนรุ่นเก่าที่ต้องพึ่งน้อง ๆ เพราะว่าในยุคสมัยที่มันเปลี่ยนไปผมอาจจะไม่เข้าใจอะไรได้เต็มร้อยเท่าน้อง ๆ ดังนั้นก็ต้องเปิดใจยอมรับและรับฟังว่าเด็กสมัยนี้เขาฟังอะไรกัน คิดยังไงกัน เพราะบางอย่างผมก็คิดไม่เหมือนเขา สังเกตได้จากเพลง มีแค่เรา สิ่งที่เราเขียนกับสิ่งที่น้อง ๆ เขียนเป็นการมองคนละมุมกัน เพราะฉะนั้นเราก็ยอมรับ ถ้ามีแต่มุมมองเราคงเข้าไม่ถึงวัยรุ่นตอนนี้อะ เราจึงต้องเปิดรับซาวด์ใหม่ ๆ หรือสิ่งใหม่ ๆ ให้มันมาเปลี่ยนตัวเราบ้างเพื่อไม่ให้มันมีความอีโก้เกินไป

รายการ The Rapper ให้อะไรกับคุณกอล์ฟบ้าง

F.HERO: ก็ได้เจอกับน้องทั้งสองคน (Lazyloxy และ OG-ANIC) นะครับ (หัวเราะ) เป็นสองคนที่ผมไม่เคยรู้จักมาก่อนในชีวิต ขอบคุณ The Rapper ที่ทำให้ผมรู้ว่าแร็ปเปอร์แบบนี้มีอยู่จริง ตัวเขาเองก็เก่งขึ้นมากจากรายการนี้ อย่าง Lazyloxy เนี่ย ตอนมารายการแรก ๆ ก็เป็นอีกแบบหนึ่งแต่เขามาเก่งมากตอนที่รายการเปิดโอกาสให้เขาได้เจอกับโค้ช Urboy TJ แล้วก็ไปฝึกกับทีเจแล้วเหมือนเขาได้เจอกับคัมภีร์จอมยุทธ์อันนึง ไม่รู้ว่าทีเจให้อะไรเขามาแต่ว่าไปทัวร์กับทีเจแล้วเขาก็เปลี่ยนเป็นอีกคนเลย ส่วน OG-ANIC มาพร้อมกับความสามารถอยู่แล้ว แล้วเขาก็ค่อย ๆ ฉายแสงมากขึ้นเรื่อย ๆ เรื่อย ๆ จนหลายคนได้มาเจอเขา มันก็เลยทำให้เขาเป็นคนที่โดดเด่นคนนึง

คุณกอล์ฟอยากจะบอกอะไรกับแฟนรายการที่ติดตาม The Rapper ซีซันนี้

F.HERO: ซีซันนี้จะเจอแต่คนที่ไม่เคยรู้จักมาก่อนและคนที่ไม่รู้จักพวกนั้นจะฝึกมาภายในปีเดียวด้วย หรือไม่ก็สองปี (Lazyloxy: จะประมาณคล้าย ๆ เรากับ OG-ANIC แบบฝึกไม่นาน แล้วบางคนมาทีก็ยูนีคเลย) อื้ม ๆ ใช่

OG-ANIC: อย่างผมฝึกมาประมาณสองปี

Lazyloxy: ผมไม่เคยฝึกเลยแต่ผมเคยส่งไป Rap Is Now เล่น ๆ (F.HERO: ก็ติดเหรอ?) ไม่ติด แต่ว่าตอนออดิชัน The Rapper…  (F.HERO: ส่งอะไรมาตอนออดิชั่น) ผมมาออดิชันเองเลยที่ Workpoint แล้วผมก็แร็ปไรห์มตัวเอง

F.HERO: ประมาณนี้ เราจะเจอแต่คนที่ไม่ใช่แร็ปเปอร์มาก่อน อย่างเทปแรก คุณ Johny Def แร็ปมาปีเดียว (OG-ANIC: โคตรเก่งเลยอะ) และเป็นนักร้องเพลงฟังก์มาก่อนทำให้เขาไม่มีขอบเขตปิดกั้นว่าต้องเขียนยังไง คือมันจะทำอะไรมันก็ทำเลย นี่แหละในซีซั่นนี้เราก็จะได้เห็นอะไรแบบนี้เยอะ

อยากจะบอกอะไรกับแร็ปเปอร์รุ่นใหม่หรือคนที่อยากจะเข้าวงการนี้

F.HERO: ยุคสมัยนี้จะเป็นกันเร็วแล้วเด็ก 11-12 ปีจะเริ่มเป็นละ ปีนี้เหมือนกับว่าผู้เข้าแข่งขัน The Rapper ที่มีอายุน้อยที่สุดน่าจะอายุ 12 ปี แปลว่าจะมีเด็กที่เป็นกันเร็วแล้วแร็ปเปอร์จะเกิดขึ้นเยอะมาก เพราะฉะนั้นแร็ปเปอร์เยอะเนี่ยคนที่โดดเด่นจริงจะหาได้ยาก (Lazyloxy: แร็ปมันไม่ใช่แร็ป (OG-ANIC: มันต้องสามารถระบุตัวตนได้) ยากมากที่จะแร็ปออกมาแล้วคนรู้ว่าใคร) ดังนั้นรุ่นใหม่ก็ต้องฝึกเยอะ ๆ เพื่อหาตัวตนจนเจอ ทั้งสองอยากฝากอะไรเพิ่มเติมมั้ย

OG-ANIC: สำหรับรุ่นใหม่ก็ทำให้เต็มที่นะครับ ปีที่แล้วผมยังตื่นเต้นอยู่บนเวทีอยู่เลย (หัวเราะ)

Lazyloxy: ผมอยากให้เขียนจากอารมณ์ ความรู้สึก และเรื่องราวของตนเองจริง ๆ มันจะเขียนง่ายมาก คือในรายการก็จะให้โจทย์อยู่แล้วใช่มั้ยว่าควรเขียนจากเพลงอะไร เรื่องราวอะไรที่มันตรงกับชีวิตคุณคุณก็เขียนมันลงไปเลยฮะ เพราะคุณจะอินแล้วถ่ายทอดออกมาดีที่สุด

 

 

การแสดงสดของฮิปฮอปบ้านเรามีแบบไหนกันบ้าง

Lazyloxy: อย่างง่ายสุดคือมีดีเจ backing track และคนแร็ป คือเราต้องเปิดเสียงเราเองไปใน backing track ด้วยเพื่อซัพพอร์ตเสียงร้องสดของเราตลอดเวลา มันเป็นเรื่องยากมากที่เราจะกระโดดและร้องเพลงไปด้วยโดยที่เสียงของเราไม่ตกและคงที่อยู่แบบนั้นอะ และไม่ใช่แค่ในไทยที่ทำ ต่างประเทศก็ด้วย ไม่ก็ต้องมี minus 1 อะ

F.HERO: แต่ฮิปฮอปเล่นสดมันก็มีอย่าง Urboy TJ ก็เล่นสด และเขาก็ทำซาวด์ออกมาดีมากนะเขาเซ็ตเครื่องดนตรีไว้โหดมาก เพราะว่าทีเจเขาเป็นโปรดิวเซอร์เองอยู่แล้ว

Lazyloxy: นี่ไง ผมเลยซื้อ Apollo Twin มาเลย แล้วก็ซื้อ autotune แบบ realtime มาด้วย แล้วผมก็ลองเอาไปเล่นสด (F.HERO: ออกมาเป็นยังไง?) ดี สุดยอดเลย เสียงไม่แกว่งเลย

F.HERO: น่าสนใจมาก ไอทอยก็ใช้อยู่

คิดอย่างไรกับการที่คนฟังเหยียดแนวเพลง

Lazyloxy: ผมคุยเรื่องนี้กับพี่เจา YENTED บ่อยมากนะ

F.HERO: ทำไมคนชอบ Telex Telexs จริง ๆ กรูฟฮิปฮอปมาก ๆ แต่อาจเพราะมันมีกรอบอะไรสักอย่างที่ทำให้มันแบ่งจากฮิปฮอปได้

Lazyloxy: มีคนด่าผมด้วยนะว่าถ้าผมไปร่วมงานกับ YENTED เขาจะเลิกฟัง YENTED เลย (F.HERO: โอโห เหยดแหม่! เหยียดกันหนักกว่าฮิปฮอปกันเองอีก) เหยียดมาก

F.HERO: ฮิปฮอปกันเองยังเหยียดกันเรื่อง auto tune อะ

Lazyloxy: แต่น้อยลงละ มันไร้สาระเกินไป (F.HERO: ต้องลองฟังเพลงในอัลบั้มใหม่ของ Younggu มีเพลงนึงที่มีเอาไว้ด่าคนที่เหยียดออโต้จูนชื่อว่า Anti Auto-Tune แล้วก็ร้องว่า ‘พ่อมึงต๊ายยย’ (หัวเราะ)) แต่ผมคิดว่าการที่คนฟังอินดี้มาฟังฮิปฮอปมากขึ้นมันเป็นเพราะว่าเราเขียนเนื้อเพลงกันเอง เหมือนกับวงดนตรีนอกกระแสนั่นแหละที่จะมีคนเขียนเนื้อเพลงในวง แล้วเวลาฮิปฮอปเขียนเพลงมันจะมีตัวตนของเราอยู่ในนั้น

ถ้ามีคนฟังเพลงอินดี้ที่ไม่ค่อยเปิดใจกับแนวอื่น ๆ เพราะรู้สึกไม่เจ๋งเราควรทำยังไง

Lazyloxy: เราก็ควบคุมเขาไม่ได้นะ แต่เราควรทำให้เขาเห็นดีกว่า

เสน่ห์ของการแสดงสดเพลงฮิปฮอปคืออะไร

F.HERO: ผมว่ามันคือการได้ฟังคำพูดหรือได้ฟังเรื่องเล่าหรือการได้ฟังคำคล้องจอง

Lazyloxy: สำหรับผม ถ้าคุณไม่ได้ฟังคำร้องแต่คุณฟังดนตรีแล้วคุณอินคุณก็โยกไปกับเพลงเลย (F.HERO: ต่างจากการฟังโพสต์ร็อกมั้ย) มันก็เหมือนกันอะ อย่างบางวงมีคำร้องน้อยมาก เช่น Inspirative อะ แต่คุณสามารถอินกับเพลงได้ฮิปฮอปก็เหมือนกันอะ

แล้วคิดอย่างไรกับดราม่าเรื่อง auto-tune

F.HERO: ลองฟัง FIIXD ดิ การจะทำออโต้จูนแบบเขาไม่ได้ง่ายนะ

Lazyloxy: ออโต้จูนมันใช้ไม่ยากนะแต่จะทำให้ยังไงให้ได้เสียงเฟี้ยวฟ้าวที่สุดนั่นแหละคือปัญหา อย่าง Youngohm อะ จริง ๆ เขาก็ร้องแบบที่เราได้ยินตามเพลงนั่นแหละพอมีออโต้จูนเสียงมันก็เลยเป็นชั้น ๆ มากขึ้น

ส่วนใหญ่ปัญหาการเหยียดแนวเพลงมักมาจากเด็กมากกว่าผู้ใหญ่เราควรทำยังไงดี

F.HERO: ผมจะบอกว่ามันอะไรที่เชยที่สุดของวงการดนตรียุคนี้คือการแบ่งประเภทว่าประเภทไหนดีกว่าประเภทไหน ผมรู้สึกว่ามันเป็นเรื่องโคตรเชยเลย (Lazyloxy: เหยียดตลาดงี้) อย่างมีคนบอกว่า old school มันดีกว่าว่ะ หรือ new school เจ๋งกว่าว่ะ อะไรแบบนี้มันเชยมาก ๆ

Lazyloxy: มีคนมาบอกผมเพลงมึงตลาดล่างว่ะ (F.HERO: แล้วแต่คุณ (มึง) เถอะ (หัวเราะ))

F.HERO: มันยังมีคนบอกว่าหมอลำไม่ดี แต่เราชอบมากเลยเพลง บักแตงโม (หัวเราะ) เขียนเพลงได้ยังไงอะ แต่เราเข้าใจการเหยียดนะเพราะเราก็เคยเหยียด เราเคยเกลียดค่ายเพลงนึงมาก ๆ แล้วเคยแต่งเป็นเพลงร้องให้พี่โจ้ (Joey Boy) ฟังเป็นเพลงแรกเลย เมื่อก่อนผมโดดถีบทีวีเลยอะเพราะมันเปิดรายการค่ายนั้น คือเมื่อก่อนหัวรุนแรงไง ชอบฟัง Slipknot, Korn  เอาเทปค่ายเพลงนั้นทั้งที่เราเคยซื้ออะ เอาไปกระทืบที่โรงเรียน (Lazyloxy: โอโห (หัวเราะ)) เมื่อก่อนเราเคยเป็นคนอย่างนั้นไงแต่พอโตมาทำเพลงเองจึงเข้าใจ

Lazyloxy: เมื่อก่อนผมก็เหยียดเหมือนกันแต่ผมไม่เข้าใจว่าบางคนก็เป็นผู้ใหญ่แล้วนะยังมีนิสัยแบบนี้อะ

F.HERO: พอเราเข้าใจเราก็เลยกลายเป็นคนง่าย ๆ อะไรก็ได้ ตอนนี้ก็เปิดใจรับฟังทุกอย่าง

คิดว่าปีนี้ฮิปฮอปยังไปได้อีกไหม

F.HERO: คิดว่ายังไปได้อีกสักสองปีนะ

F.HERO

ให้ F.HERO (กอล์ฟ), Lazyloxy(ท้อป) และOG-ANIC(บิ๊ก) ฝากอะไรถึงคนอ่าน

F.HERO: จริง ๆ ผมติดตามฟังใจอยู่เรื่อย ๆ คือเห็นฟังใจไปสัมภาษณ์แสตมป์เราก็คิดนะว่าเมื่อไหร่จะมาหาเราบ้างน้อ เราดีใจที่ได้พูดคุยกับฟังใจ

Lazyloxy: ผมไล่อ่านบทสัมภาษณ์ของฟังใจตลอด ผมอยากบอกว่าไม่ว่าคุณจะฟังเพลงอะไรผมไม่อยากให้คนฟังมีอคติกับมัน แค่ฟังแล้วมันดีสำหรับเราก็พอแล้ว ดนตรีมันสร้างมาเพือสิ่งนี้

บางทีเราอาจต้องทบทวนอีกรอบว่าหน้าที่ของเพลงคืออะไร เราคิดว่าหลาย ๆ คนที่ฟังเพลงยาก ๆ แปลก ๆ ในวันนี้ก็ต้องเคยฟังอะไรง่าย ๆ แมส ๆ มาก่อน รสนิยมของคนฟังมันหลากหลายแม้ว่าเราไม่ชอบแนวดนตรีที่แมสแล้วก็ไม่เป็นไร แต่ขอให้เข้าใจว่าที่เขาชอบแนวเพลงที่แมสนั้นก็คล้ายกับเราที่คลั่งใคล้แนวดนตรีที่ถูกนิยามว่า ‘อินดี้’ เช่นกัน ไม่ชอบกันไม่เป็นไรแต่อยากให้เปิดใจทำความเข้าใจกันมากกว่าเนอะ

 

 

อ่านบทสัมภาษณ์ศิลปิน HIP HOP ท่านอื่น

ใครยังไม่ง่วงขอเชิญมาทำความรู้จักกับ YOUNGOHM กันก่อน

คุยกับ F.HERO (กอล์ฟ), Lazyloxy (ท้อป) และ OG-ANIC  

Hip Hop is My Life : Twopee Southside

เส้นทางชีวิตที่ไม่ง่ายของ Nana The Rapper – นานา ภัทรวรินทร์ ซู

BlacksheepRR กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในรายการ The Rapper

คุยกับ MAIYARAP – ไมยราพ แร็พเปอร์มาดเท่ชื่อจำง่าย

Facebook Comments

Next: