ถาม-ตอบ 8 คำถามที่พบบ่อยกับงาน Cat Expo ที่ปีนี้จัดเป็นปีที่ 3 แล้ว จะมีอะไรพุ่ง โบ้ม ปัง บ้าง เรามาฟังคำตอบจากคุณจ๋อง – พงศ์นรินทร์ อุลิศ ผู้บริหารคลื่น Cat Radio กันเลย

1. ทำไมถึงใช้ชื่อว่า Cat Expo 3D

เราอยากให้งานมันพุ่งกว่าทุกงานที่เคยทำ การใช้ชื่อ 3D ก็ดูพุ่งดี แล้วก็ฟังดูดีกว่า Cat โปโป ครั้งที่แล้วเยอะเลย แต่ถ้าเอาเรื่องจริงก็คือบูมโพล่งขึ้นมาว่า ปีนี้ทำสามมิติสิ แล้วไม่มีใครแย้ง แต่จะเอาสามมิติแบบไหน เราก็เอาแบบที่เป็นภาพสามมิติโบราณ ๆ ประมาณ 30 ปีที่แล้ว ที่จ้องไดโนเสาร์กันจนตาเหล่แบบที่เราเอามาทำ teaser ในเพจ แล้วก็จะลองไปทำบอร์ดเจาะหน้าเจาะแขนสามมิติตามสวนสัตว์ พื้นก็จะทำให้เป็นสามมิติ ยืนถ่าย นอนถ่ายกันได้ แค่นี้ก็สนุกแล้ว แต่หลายคนก็บอกยังไม่พอ โชว์ต้องเป็นสามมิติด้วย ก็จะเป็นงานแรกที่เราจะลงทุนเรื่องจอกัน เวลาดูโชว์ก็จะมีกราฟฟิกพุ่งออกมา แล้วให้ทุกคนใส่แว่นสามมิติ ที่จะแจกพร้อมกับบัตร Early Cat ราคา 800 บาท ขายวันที่ 30 กันยายน – 9 ตุลาคมนี้ จากราคาเต็ม 1,500 บาท

2. แต่ละเวทีในงานน่าสนใจต่างกันยังไง

มันจะมีเวลาทีใหญ่สุดเวทีนึงจุประมาณหมื่นคน เหมาะสำหรับศิลปินที่มีคนจะไปแย่งกันดูเยอะ แล้วก็จะมีไซส์รองลงมาสำหรับเพลงสาย easy listening เบา ๆ หน่อย คนซัก หกถึงแปดพัน แล้วแต่ความแน่น อีกเวทีก็เป็นศิลปินที่กำลังมา แต่อาจจะยังไม่ใช่คนที่แจ้งเกิดมากนัก ขนาดเท่าเวทีเมื่อกี้ กับอีกเวที Bedroom เมื่อก่อนเราเรียกว่าเวที Dog เพื่อเป็นการให้เกียรติกับ Moderndog แต่คราวนี้จะเรียกว่าเวที แบบ Bed Bed รวมศิลปินหน้าใหม่ใสกิ๊กจากช่วง Bedroom ที่คนส่วนใหญ่ในโลกยังไม่รู้จักที่เราคัดมาอย่างดี วราฤทธิ์เป็นโต้โผในการคัดกรอง วงไหนได้เล่นก็มาขอบคุณเรา วงไหนไม่ได้เล่นก็ไปโทษวราฤทธิ์ (หัวเราะ)

3. จะมีอะไรแตกต่างจากครั้งก่อน ๆ ไหม

ไม่มีเลย เอางี้ ถ้าคุณขายข้าวมันไก่อยู่ประตูน้ำ คิดว่าคนที่เดินเข้ามาร้านคุณเขาหวังอะไร เขาก็หวังจะกินข้าวมันไก่ คนมา Cat Expo เขาก็หวังว่าจะเจอโชว์ เจอตลาด เจอของเล่น เราก็ทำตามที่เขาคาดหวัง ไม่ได้คิดจะทำอะไรที่แตกต่างออกไป สิ่งที่ต่างกันอาจจะไม่ใช่รูปแบบ แต่เป็นคอนเทนต์ในแต่ละปีที่จะไม่เหมือนกัน มุขที่จะเล่นในแต่ละครั้งไม่เหมือนกัน หรือหนังสือทำมือที่ทำขึ้นใหม่ในทุกปีก็ได้คนเขียนไม่เหมือนกัน หรือคนเขียนคนเดิมก็เขียนเรื่องใหม่ คือโซนนี้เราจะไปชวนนักเขียนหรือนักวาดภาพประกอบประมาณ 100 คนที่คิดว่าเขาอยากจะทำ มาเขียนหนังสือกันคนละหน้า แล้ววางเป็นแผง จะไม่ทำรวมเล่มให้ ให้ประชาชนมาเลือกหยิบเองว่าชอบหน้าไหน เพราะคิดว่าแต่ละคนคงชอบอะไรไม่เหมือนกัน ขายหน้าละ 20 บาทแล้วให้การกุศล

4. การจัด Cat Expo แต่ละครั้งคาดหวังอะไรไหม

คาดหวังว่าเขาจะชอบ เพราะเราถือว่าเป็นงานใหญ่ เป็นงานบุญประจำปีที่จะรวมคนที่ชอบอะไรเหมือน ๆ กัน จะเป็นคนที่ฟังเราหรือไม่ฟังเราก็ตาม เราแค่หวังว่าเขามาในงานแล้วเขาจะมีความสุข ผมว่าใคร ๆ ที่มีเงินก็ทำเทศกาลดนตรีที่มีหลายเวทีได้ ใครจะทำตลาดใกล้เคียงเราหมดก็ได้ แต่สิ่งที่ทำให้ Cat Expo ไม่เหมือนงานชาวบ้านเขาตรงที่ คนที่มางานเรามันใช่ เป็นแฟนของวงแบบนั้นจริง ๆ รู้จักเพลงที่วงเล่น และร้องเพลงของวงพวกนี้ได้  อันนี้เป็นสิ่งที่ศิลปินทุกคนสัมผัสได้ มันไม่มีอะไรที่เป็นเสียงสวรรค์เท่านี้อีกแล้วสำหรับศิลปิน เหมือนมองตากันแล้ว connect อันนี้มันคือสิ่งสำคัญของ Cat Expo แล้วหวังว่าคนเดินในงานแบบมีความสุข ได้เจออะไรที่อยากเจอ ได้ซื้อซีดีของศิลปินที่ชอบ ปีที่แล้ว Part Time Musicians มหัศจรรย์มากนะ ถ้าจำไม่ผิดคือเขาขายซีดีแผ่นละ 500 บาทไปได้ 1,500 แผ่น บ้าไปแล้ว ผมว่าค่ายเพลงยักษ์ใหญ่บางค่ายขายซีดีทั้งปีรวมกันไม่น่าได้ยอดเท่านี้นะ ซีดีที่ขายที่ไหนไม่ได้อีกแล้วในโลก แต่ยังขายได้จริง ๆ ในงานเรา วงที่มีคนรู้จักน้อย ๆ ทำมา 150 แผ่นเขาก็ขายหมด มันเป็นเรื่องของบรรยากาศการส่งเสริมกันและกัน ซึ่งผมไม่ได้ทำสิ่งนี้นะ ผมแค่เตรียมสิ่งที่เขาน่าจะชอบมา แต่ผลพลอยได้คือคนเขาอิน เขารู้สึกแบบนั้นกับการมาเที่ยวงานของเรา

5. จัดงานสเกลใหญ่เจอปัญหาอะไรบ้าง

ปัญหาคือที่ใหญ่ ๆ มันไม่ใช่แค่คนเยอะแล้วที่ต้องใหญ่อย่างเดียว แต่ว่าจากการทำหลายเวที เพื่อไม่ให้เสียงตีกันมากนักก็ต้องวางเวทีห่าง ๆ ใช้ระยะที่กว้างหน่อย แล้วไอ้พื้นที่กว้างหน่อยที่เดินทางสะดวกในโลกนี้ก็ไม่ค่อยมี ก็ต้องเดินทางลำบาก หรือพอได้ที่เดินทางสะดวกแล้ว รอบ ๆ ที่เดินทางสะดวกมีบ้านคน โรงเรียน วัด โรงพยาบาลไหม ข้อจำกัดเยอะมากกับเรื่องแบบนี้ แต่ที่เหลือผมว่าสนุกดี

6. กระแสตอบรับคนที่มางานเป็นยังไงบ้าง

ดูจากสองปีที่ผ่านมาก็ดีขึ้นเรื่อย ๆ ปีนี้ก็น่าจะดีขึ้นอีกนิดนึง เหมือนตอนทำ Fat Festival ครับ ปีแรกกับปีสุดท้ายยอดคนดูจำนวนต่างกันเยอะมาก ตอนแรกมันก็เริ่มไปช้า ๆ เพราะเราก็ไม่ค่อยมีทางเลือกก็ค่อยเป็นค่อยไปของเรา เพราะเราอยากทำ เราก็ไม่ใช่โปรโมเตอร์ เราทำเพื่อคนฟังเรา ยังไงเราก็ต้องทำไปเรื่อย ๆ

7. มีคนกลัวว่า Cat Expo จะไม่เหมือน Fat Festival

ไม่ต้องกลัวเลยครับ ไม่เหมือนอยู่แล้ว คนที่บอกมาแบบนั้นคุณเองก็ไม่เหมือนเดิม และคุณอาจจะไม่รู้ว่าตัวเองไม่เหมือนเดิม คนเราก็ต้องมีวุฒิภาวะต่างกันไปตามประสบการณ์ที่เจอในชีวิตใช่ไหม ตอนคุณอายุ 15 ไปเที่ยวงาน Fat ก็ย่อมไม่เหมือนคนอายุ 25 ในวันนี้ที่ไปเที่ยวงาน Cat แน่ แต่อย่างนึงนอกจาก perception เราเปลี่ยน อีกอย่างนึงที่ต้องบอกไว้คือ จิตวิญญาณเรายังเหมือนเดิมปะวะ ผมก็ไม่ได้พยายามจะกินบุญเก่ากันนักหนา เราทำ Cat แล้ว เราไม่ได้ย้อนกลับไปตรงนั้นกันเท่าไหร่แล้ว แต่ว่าทั้ง Cat และ Fat ก็มีจิตวิญญาณร่วมกันอยู่อย่างนึง คือมันอยากบอกประชาชนว่า โลกมันใหญ่กว่าที่เราคิดนิดนึง แล้วหวังว่าคุณจะเปิดใจรับมัน แล้วหลังจากนั้นคุณจะไปชอบอะไรก็เรื่องของคุณ บางคนก็เซ็งกับเราว่าบางที Cat แคบไปปะ ผมรู้จักวงประหลาดมากกว่า Cat อีก โอเค คุณเก่งมาก ดีใจด้วย แต่คนส่วนใหญ่ตรงกันข้าม เขาฟังเพลงตามที่คนเขาบอกว่าต้องฟังอะไร เขาฟังฟังใจก็ไม่มีปัญหา แต่ถ้าเขาไม่ได้ฟังฟังใจ ไม่ได้ฟัง Cat เขาก็อาจจะจับต้นชนปลายไม่ถูก เขาก็ต้องไปหาอะไรที่ยอดวิวฮิตใน YouTube ก็ดูซ้ำอันนั้นไปเพราะกลัวเชย ทั้ง ๆ ที่การจะได้ฟังเพลงอะไรสักเพลงหรือดูหนังอะไรสักเรื่องมันก็ไม่เกี่ยวกับความเชยปะ มันเป็นเรื่องรสนิยมส่วนตัวปะวะ

8. จะมีโอกาสกลับไปจัดที่ Impact อีกไหม

คงมีโอกาสแหละ แต่ยังไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ อยากจัด outdoor มากกว่า indoor แต่ว่าลานทะเลสาบตรง Impact เดี๋ยวนี้มันมีคอนโดขึ้นหมดแล้ว ใครไปจัดก็ต้องเลิกสี่ทุ่มหมดเลยเพราะหลังจากนั้นจะรบกวนบ้านเขาแล้ว ก็คิดว่าคงไม่เหมาะ ต้องไปหาที่ใหม่ ปีนี้ก็เป็นลุมพินีสแควร์ไปก่อนแล้วกัน ปีหน้าค่อยว่ากันใหม่

“CAT EXPO 3D”

พุ่งไปกับ โชว์ดี ๆ จากศิลปิน 100 วง ตลอด 2 วัน 5 เวที อาทิ

scrubb, สิงโต นำโชค, Flure, Polycat, 2 Days ago Kids, Soul after Six, Greasy Cafe, Hugo, The Yers, Stamp VS Kumamon,Tattoo Colour, Slot Machine, Lipta, Paradox, Mr.Z feat. Triumphs Kingdom, Somkiat, อพาร์ตเมนต์คุณป้า, V Violette, The Ghost Cat, บอย ตรัย ภูมิรัตน, นภ พรชำนิ & The Groove to Matix 7, วงดีเจ แคท เรดิโอ, The Parkinson, Ten to Twelve, Bedroom Audio, The Jukks, The Musketeers, อิ้งค์ วรันธร, Portrait, Brandnew Sunset,Tabasco, Brown Flying, Helmetheads, Crescendo, เป้ อารักษ์, Sin, Love is Show, Folk9, Blue Shade, Nap a Lean,The Dai Dai, Jelly Rocket, Lullaby, Safeplanet, Rhythmatique feat. ส้ม มารี, Kidnappers, Lostage (Japan), Stoondio, ชาติ สุชาติ, Gym and Swim, Chanudom, Supersub, Leck & Friends, Bomb at Track,The Rovers, PC 0832/676, Damnwrong, Penny Time, Starfish, Degaruda,The Superglasses Ska Ensemble, The Darkest Romance, Gorealla, Medicine Men, World Not Bad, Lord Liar Boots, Counterclockwise, Fwends, Chub Du (Japan), Srirajah Rockers, De Flamingo, Triggs and The Longest Day, Electric Neon Lamp, DCNXTR, Plastic Plastic, The Caption, Morning Surfers, Solitude is Bliss, ปลานิลเต็มบ้าน, The Charapaabs, JerryBlueberry, Two Pills After Meal, The Whitest Crow, My Life as Ali Thomas, Fukking Hero, Poobpub Knock The Knock, Phum Viphurit,Yellow Fang, Street Funk Rollers, Summer Stop, Penguin Villa, แป้งโกะ, อภิรมย์, ภูมิจิต, สหายแห่งสายลม, Young Man and The Sea, O-Pavee, Asss, Bhode Tanit, Costlywood, Follows, Furasfic Fark, Jenny & The Scallywags, Mean, Pyra, S.O.L.E., Sasi, Shark Boy Alive, Spring Fall Sea, Telex Telexs, The 389, The Curious Case, The Octopuss, Toys, Vega, Vivid Dream, West of East, White Collar, Why Frank, จินดาจร, ดวงดาว เดียวดาย และ Playground

พุ่งไปกับตลาดค่ายเพลงใหญ่สุดใน AEC ไม่ซิ! ใหญ่ที่สุดในโลก ช้อปปิ้งผลงานเพลงวางแผงใหม่ครั้งแรกและของที่ระลึกจากมือศิลปินแบบใกล้ชิด

พุ่งไปเพ่งบุฟเฟ่ต์หนังสือทำมือจาก 100 คนดัง พร้อมร่วมทำบุญโดยรายได้เราจะนำไปบริจาคสมทบทุน มูลนิธิอนุเคราะห์คนหูหนวกในพระบรมราชินูปถัมภ์

พุ่งไปสนุกกับของเล่น 3 มิติทุกแบบ อาทิ พื้นพุ่ง กำแพงพุ่ง หน้าพุ่ง

เสาร์ อาทิตย์ 5-6 พฤศจิกายนเน้
ประตูเปิดบ่าย 3 ยันเกือบเที่ยงคืน
ลุมพินีสแควร์ (สวนลุมไนท์บาร์ซาร์เก่า) ใกล้รถไฟใต้ดิน สถานีลุมพินี

บัตร Early Cat เพียง 800 บาท จากราคาเต็ม 1500 บาท
แถมฟรี แว่น 3 มิติลิมิเต็ดอิดิชั่น
เริ่มขาย 30 กันยา – 9 ตุลา ที่ไทยทิคเกตเมเจอร์ทุกสาขา สอบถามโทร 02-262-3838
*บัตรสามารถเข้างานได้ 2 วัน
พิเศษบัตร 4000 ใบแรก รับ พัด KUMAMON 3D

• Twitter
• Line