Big Bang Swing เต้นรำเคล้าเสียงนก กับวิวที่สวยที่สุดหน้าพระปฐมเจดีย์
- Writer: Montipa Virojpan
- Photographer: ทวีพงษ์ อึ้งประเสริฐ
Big Bang Swing
25 กุมภาพันธ์ 2561
อีกครั้งที่ Bangkok Swing หรือกลุ่มนักเต้นสวิงแดนซ์กรุงเทพ ฯ ได้เนรมิตให้ถนนรถไฟ บริเวณหน้าพระปฐมเจดีย์ จังหวัดนครปฐม กลายเป็นฟลอร์เต้นรำที่คลาคล่ำไปด้วยผู้คนจากทุกสารทิศ ไม่ใช่แต่เพียงคนละแวกนั้น แต่มีนักเต้นทั้งมืออาชีพและมือสมัครเล่นจากทั่วประเทศ (รวมถึงจากต่างประเทศ!) ใส่ผ้าใบคู่โปรดตบเท้ากันมายังที่แห่งนี้เพื่อร่วมสนุกในกิจกรรม Big Bang Swing ที่จัดขึ้นเป็นปีที่สามแล้ว
หลายคนคิดว่างานเต้นรำจะต้องจัดแต่ในบอลรูม หรือที่ปิดอันหรูหราเท่านั้น แต่ทางผู้จัดเขาบอกว่า ไม่จริงซักหน่อย การเต้นลินดี้ฮอปที่สนุกขนาดนี้มันจะไปเว่อวังอลังการได้ยังไง มันเป็น street dance เว้ยแก ไม่ว่าคุณจะทำอะไรจะไปที่ไหนก็เต้นสวิงได้จ้า ซึ่งปีนี้ก็เป็นอีกปีที่พิสูจน์ความสำเร็จอย่างงดงามของงานได้เป็นอย่างดีจากจำนวนผู้ที่สนใจและเข้าร่วมงานที่มากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด แล้วแต่ละคนก็แต่งตัวเต็มมาแบบไม่แคร์อากาศที่ร้อนอบอ้าวในวันนั้นกันเลย ใช่ ตรงโซนที่จัดงานขนาบด้วยอาคารพาณิชย์ที่บล็อกทางลม แต่ถึงร้อนแค่ไหนทุกคนก็ยังเต้นสู้ตาย แต่ไม่ต้องห่วงเพราะบริเวณนั้นมีน้ำดื่มและไอศกรีมจำหน่ายคลายร้อนกันด้วย
แน่นอนว่ากิจกรรมภายในงาน Big Bang Swing คงหนีไม่พ้นการเต้นรำ แต่ความพิเศษของการเต้นรำครั้งนี้คือในเวลาทุ่มตรง จะมีการสอนเต้นสวิงขั้นพื้นฐานให้กับผู้ร่วมงาน ใครเต้นไม่เป็น ไม่มีคู่มาด้วย ไม่ต้องกลัวเลยเพราะเราจะเต้นเป็นและมีเพื่อนเต้นในงานนี้เนี่ยแหละ หรือถึงจะเต้นไม่เป็นก็ยังได้ฟังเพลงจากนักดนตรีแจ๊สชื่อดังจากอังกฤษและสหรัฐอเมริกาอย่าง The Shirt Tail Stompers และ Casey Macgill and Friends มาบรรเลงเพลงเพราะ ๆ ให้เราฟังไปเต้นรำไปตลอดงาน ไม่ต้องเต้นเป๊ะทุกสเต็ป แค่เงี่ยหูฟังแล้วขยับตามจังหวะก็เป็นอันใช้ได้ นอกจากนี้ก็มีโชว์เต้นจากนักเต้นระดับโลก ที่มาเป็นอาจารย์พิเศษในค่าย Big Bang Swing เวิร์กช็อปนักเต้นซึ่งจัดขึ้นตั้งแต่วันที่ 22 กุมภาพันธ์ ที่โรงแรม Sampran Riverside ยาวมาจนถึงวันงานที่พระปฐมเจดีย์นั่นเอง ส่วนตัวเราเองก็เคยเห็นเพื่อน ๆ มาร่วมงานนี้ในปีก่อน ๆ ก็รู้สึกว่าน่าลองมาดูกับเขาสักครั้ง แต่ก่อนหน้านี้ก็ได้ไปร่วมงาน Diga Diga Doo มาแล้ว ซึ่งชอบมากเลยคิดว่าถ้ามีงานเต้นอีกเมื่อไหร่ก็จะพยายามไปให้ได้ แล้วหนนี้ถือโอกาสที่มาทำธุระกับแม่แถว ๆ สมุทรสาครพอดี จังหวัดข้างเคียงกันแบบนี้ก็แวะมาซะเลย
งานเริ่มตอนเวลาทุ่มเศษ ๆ เรียกว่าค่อนข้างตรงเวลาทีเดียวกับ sequence ที่รันในงานตั้งแต่ต้นจนจบ โดยช่วงแรกสุดพิธีกร (ที่จริง ๆ แล้วคือนักเต้นของ Bangkok Swing นั่นแหละ) ก็ให้เรายืนซ้อนกันเป็นวงกลมใหญ่ ๆ สองวง โดยวงนอกจะเป็นผู้ชาย ที่ต้องคอยลีด หรือเต้นนำให้ผู้หญิงที่อยู่วงใน และจะมีนักเต้นแทรกตัวเข้ามาช่วยสอนในแต่ละจุด ดังนั้นไม่ต้องกลัวเลยว่าจะเต้นไม่ได้ พอดนตรีเริ่มบรรเลง ทุกคนก็เริ่มออกสเต็ปกัน พอจบ session นี้ทุกคนก็กระจายตัวไปเต้นในมุมของตัวเอง ซึ่งในแต่ละเพลงก็จะมีการเต้นแบบพิเศษเกิดขึ้นเรื่อย ๆ ทั้งเต้นเป็นวงกลม แล้วก็ line dancing คือการเต้นเรียงแถว ที่จะมีการทำ shim sham ซึ่งเป็นการเต้นคล้าย ๆ ย่ำอยู่กับที่แล้วเคลื่อนขึ้นหน้า ถอยหลังพร้อม ๆ กัน (มันจะมีการก้าวเท้าเฉพาะของมันอยู่ ถ้าใครอยากรู้ว่าเต้นยังไง ไปลองเรียนที่ The Hop สีลมได้เด้อ เขามี open class กับ social dance อยู่ทุกคืนวันอังคารกับเสาร์ ค่าเข้า 200 บาทได้ 1 ดริงค์ แต่ถ้าใครอยากลงคอร์สจริงจังก็มีให้เลือกตั้งแต่ solo jazz, lindy hop, bal boa, charleston, blues, tap ละลานตามาก กรุ้ว ๆ)
สำหรับเพลงในงานมีทั้งเพลงจังหวะเร็ว แบบที่เต้นลินดี้ฮอปปกติไม่ได้เพราะสกิลไม่ถึง ต้องสลับไปเต้นชาร์ลสตันที่คล่องเท้ากว่า โดยให้เพื่อนสอนภายในระยะเวลานาทีครึ่งก็เต้นเป็นเลย แล้วสนุกมาก ๆ เหนื่อยมาก ใครอยากได้เหงื่อแนะนำกิจกรรมนี้ค่ะเพราะเผาผลาญแคลอรี่ได้พอ ๆ กับคาร์ดิโอเลยทีเดียว และการเปลี่ยนคู่เต้นไปเรื่อย ๆ ก็จะได้ทำความรู้จักกับเพื่อนใหม่อีกหลายคน เพราะในงานมีทุกเพศทุกวัยและหลายเชื้อชาติมาจริง ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเราชอบการได้เห็นผู้สูงอายุหลายคนมาเต้นรำที่นี่ ได้เห็นสีหน้าและการโยกย้ายที่มีชีวิตชีวา ถึงจะไม่ได้ตรงตามสเต็ปเป๊ะ ๆ แต่ก็รู้สึกกระชุ่มกระชวยไปกับพวกเขาด้วย
แต่แล้วงานเลี้ยงทุกที่ย่อมมีวันเลิกรา ช่วงสุดท้ายของงาน วงดนตรีก็เดินลงมาจากเวทีและเหล่านักเต้นก็ถือธงผืนใหญ่พากันเดินพาเหรดจากหัวถนนไปท้ายถนน แล้วทุกคนก็เต้น ๆ เดิน ๆ ตบมือเข้าจังหวะ และในเพลงสุดท้าย Fancy Beer ที่ทุกคนจะได้ร้องตะโกนโต้ตอบกับนักดนตรีว่า ‘fancy beer!’ เป็นอะไรที่สนุกมาก ซึ่งพี่นักร้องแกกระโดดลงมาจากเวทีให้ผู้ร่วมงานช่วยซัพพอร์ตเขาตอนทำ body wave จุดนั้นแอบสงสัยว่านี่อยู่งานสวิงแดนซ์หรือคอนเสิร์ตร็อกกันแน่ จนเวลาสี่ทุ่มตรงก็เป็นอันสิ้นสุดงานด้วยการถ่ายรูปหมู่ เป็นภาพที่ทุกคนแฮปปี้มาก แม้จะร้อน เหนื่อย เปียกชุ่มฉ่ำไปด้วยเหงื่อ แต่เอาจริงนี่คือประสบการณ์ที่ดีที่ควรมาลองสักครั้งในชีวิต เพราะมันจะทำให้คุณจดจำไปอีกนาน